วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

[Short Fic] : Psychopath : Bullseye x Kevin

[Short Fic]  : Psychopath : Bullseye x Kevin
Title: Psychopath
Pairing: Bullseye x Kevin
Rate: (?)



                

                ปึก! ปึก!
                เสียงปลายแหลมของลูกดอกปักเข้ากลางเป้าที่แขวนอยู่บนผนัง ลูกดอกหลายลูกซ้อนรวมกันบ่งบอกความแม่นยำของชายหัวโล้นที่มีรูปร่างสูงกำยำ คิ้วเข้ม และสวมหมวกไหมพรมปกปิดรอยแผลเป็นรูปเป้าบนหน้าผาก ที่จริง ดูก็รู้ว่าเขาไม่ได้อยากปิดมันเท่าไหร่ แค่คิดว่ามันเท่ถ้าใส่มัน อีกอย่างมันหนาวนะ รู้สึกไม่ดีตอนหัวโล้นๆของเขาโดนลม

                มือกร้านเรียวยกแบขึ้นต่อหน้าชายแก่อ้วนท้วม ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหม ว่าเขาพนันกัน และใครชนะกันล่ะ
               
                ก็ไอผู้ชายหน้าตาดีชอบเล่นหูเล่นตา หัวโล้น เจ้าเล่ห์ ที่ชื่อ บูลส์อาย ยังไงเล่า!

                ทุกการกระทำ ทุกท่วงท่าของบูลส์อาย อยู่ในสายตาของเด็กหนุ่มตัวสูงที่กำลังนั่งดื่มเครื่องดื่มสีอำพันที่เรียกง่ายๆว่า แป๊ปซี่ อยู่
ก่อนหน้านั้นมันมีสีเข้มกว่านี้ แต่เพราะคนหนุ่มมัวแต่มองลูกดอกหลายลูกค่อยๆปักรวมกันละม้ายคล้ายเม่นที่โดนสุนัขไล่ จนลืมที่จะดื่มมันทั้งหมด  จะไม่ให้สนใจได้ยังไงในเมื่อมันเหมือนกับนิทานเรื่องโรบินฮู้ดที่แม่ของเขาเคยเล่าให้ฟังตอนเด็ก แค่เปลี่ยนจากลูกธนูเป็นลูกดอกเท่านั้น

                ตั้งแต่ออกมาจากเรือนจำเควินก็ไม่ได้ยิงธนูอีกเลย และเมื่อเห็นบูลส์อาย ความรู้สึกที่อยากจะยิงธนูก็กลับมา
                “ไอหนู แกมองฉันทำไม?” เสียงทุ้มแหบดังลั่นพร้อมกับเสียงลูกดอกลอยแหวกลมมาเฉี่ยวเส้นผมหยักศกของเด็กหนุ่มตัวผอมสูงโก่ง
               
                “ผมมองสิ่งที่สนใจไม่ได้เหรอ?”

                เควินแย้มยิ้มมุมปาก สายตาคมจ้องมองกลับอย่างท้าทายอีกคนที่กำลังย่างกายมาตรงหน้า ปฏิกิริยาของเควินไม่เป็นตามคาดของบูลส์อาย นั่นทำให้เขาหงุดหงิดจนหัวร้อนและถอดหมวกไหมพรมในที่สุด

                “โอ้ว! นั่น เจ๋งดีนี่” เด็กหนุ่มลุกขึ้นประชันหน้ากับวายร้ายหน้าตาดีคนนี้ สายตาของเด็กหนุ่มเป็นประกายอย่างสนใจรอยแผลเป็นของคนตรงหน้า มือขาวเอื้อมขึ้นหมายจะลูบที่รอยแผลเป็นนั่น แต่น่าเสียดายที่โดนปัดออกโดยเจ้าของรอยแผล บูลส์อายมองเด็กหนุ่มตาขวาง แต่เควินก็ยังคือเควิน เขาชอบที่ยั่วโมโหคนอยู่แล้ว
               
                “อย่ายุ่ง! ไอหนู ถ้าแกยังรักชีวิตอยู่ อย่ายุ่ง”

                บูลส์อายสวมหมวกไหมพรมให้เข้าที่ดังเดิม ก่อนจะเดินออกจากตัวร่างบาง แต่เสียงแหบหวานของเด็กหนุ่มหยุดเขาไว้ซะก่อน

                “ผมนึกว่าคุณจะแน่กว่านี้นะ บลูส์อาย”

                คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิด บลูส์อายหันกลับไปหาเควินอีกครั้ง เด็กหนุ่มยิ้มอย่างมีชัย หารู้ไม่ว่าภัยกำลังมาหาตัว ร่างโปร่งในเสื้อโค้ทหนังตัวยาวกับกางเกงสแล็กสีเข้มก้าวสามขุมมาตรงหน้าเด็กหนุ่ม
                มือหยาบกร้านของไอสารเลวบลูส์อายเหวี่ยงไปกดคอระหงของเด็กหนุ่มไปตรึงอยู่กำผนัง บูลส์กายจุดประกายยิ้มเหยียด มองคนในกำมือที่ส่งสายตาอาฆาตมาที่เขา

                “ปกติฉันไม่ใช้วิธีแบบนี้ แต่กับแก ไอหนู ฉันให้พิเศษ”

                โครม!!

                ร่างขาวสูงถูกเหวี่ยงไปชนกับผนังแรงจนเสียงดังสนั่นและแรงจนทำให้กระดูกของเควินลั่นเป็นส่วนๆ เสียงกรีดร้องหรือเสียงโหวกเหวกดังเข้าไปในโสตประสาทของเด็กหนุ่ม ให้ตายสิ นี่เขาโดนเล่นงานโดยไอโล้นโรคจิตนั่นเนี่ยนะ เควินสบถในใจ กวาดมือพยุงตัวเองลุกขึ้น แต่จะลุกขึ้นได้ยังไงในเมื่อวายร้ายอย่างบูลส์อายเหยียบไหล่เขาอยู่ เควินมองและยิ้ม ถึงจะเจ็บตัวและเจ็บใจยังไงก็ต้องยอมรับว่าอยู่ในท่าทางแบบนี้ ไอโรคจิตที่เขาว่านี่

แม่ง
โคตรเท่เลย!

“เฮ้! อย่ามองฉันแบบนั้น ฉันหวั่นไหวนะ”

คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง บูลส์อายย่อตัวลงเชยคางมนให้เงยหน้าขาวมองเขา สายตาของบูลส์อายซุกซนมองไปทั่ว ไล่ตั้งแต่ดวงตา ริมฝีปากสีสวย สันกรามคมที่เป็นเอกลักษณ์ จนกระทั่งเนินอกผอมๆที่โผล่พ้นเสื้อยืดตัวเล็ก

“ไหนบอกฉันหน่อยว่ามาทำอะไรที่นี่
คงไม่ใช่แค่ดื่มเครื่องดื่มโง่ๆนั่นและปากดีใส่ฉันใช่ไหม?”

“บูลส์อาย ผมว่าคุณคิดมากเกินไปนะ ผมแค่มาหาอะไรทำฆ่าเวลาเท่านั้น
คุณคิดว่าผมถูกจ้างมาฆ่าคุณหรือไง ไร้สานะน่า”  เด็กหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะแต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นร้องเสียงดังลั่น เมื่อเท้าของบูลส์อายกดไหล่เขาแรง แรงจนคิดว่ากระดูกต้องหักอีกแน่

“ก็ดี ฉันไม่อยากจะฆ่าคนสวยๆแบบแกเท่าไหร่”
หน้าขาวของเควินสะบัดตามแรงตบของบูลส์อาย เสียงขบขันของเควินดังขึ้นอีกครั้ง สายตาคมตวัดมองตรงหน้า ในความคิดของบูลส์อาย เด็กหนุ่มตรงหน้าสวยจริงๆ สวยกว่าผู้หญิงหลายคนที่เขาผ่านมา ยิ่งใบหน้าขาวมีริ้วแดงจากการตบของตน ยิ่งดึงดูดอย่างน่าประหลาด

“นั่น ไอเด็กนั่น”
เสียงแหลมของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นดึงความสนใจให้บูลส์อายหันไปมอง
“โดนทำร้ายอยู่นี่ สมควรแล้ว ไอเด็กสารเลว”
ด่าเสร็จแล้วก็เดินไป ทำให้เควินต้องเค้นหัวเราะดังขึ้น ใช้แขนดันตัวเองลุกขึ้นนั่งพิงผนัง มองผู้หญิงสองคนเดินไป มีบาร์ที่ไหนใช้กระจกใสแต่งร้านบ้างนอกจากร้านนี้ ทำไมรู้ ก็ถ้าใช้ฟิล์มเขาสองคนจะเห็นได้ไงว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วจะรู้ได้ไงว่าเควินอยู่ข้างใน ก็นั่นแหละ

“ยัยป้านั่น ด่าแกอยู่นะ ไม่คิดจะทำอะไรหน่อยเหรอ?”
บูลส์อายเอ่ยเสียงทุ้ม นั่งชันเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าเควิน เด็กหนุ่มยิ้มเป็นคำตอบ ยักไหล่ในท่าทีสบายๆ
“ผมเคยโดนหนักมากกว่าด่านะ อยากรู้ไหมว่าทำไม?”

“อยากบอกไหมล่ะ?”

“เพราะผมก็เป็นเหมือนคุณไง”

“เป็นฆาตกร”

“เป็นคนที่ไม่มีใครต้องการ”

“ฉันว่าแกเข้าใจอะไรผิดนิดหน่อย ฉันเป็นฆาตกรจริง แต่ก็ยังมีคนต้องการฉันนะไอหนู”
มือข้างหนึ่งของบูลส์อายตบไปที่แก้มตอบของเควินเบาๆ จะเรียกว่าเอ็นดูก็ไม่เชิงเรียกได้ว่าเป็นการปลอบใจในท่าทางของบูลส์อายมากกว่าล่ะมั้ง

“ลุกขึ้น ไปจากที่นี่กัน”
บูลส์อายฉุดแขนของเควินขึ้น แต่เจ้าตัวกลับร้องออดโอยเสียงลั่น ทำให้วายร้ายหนุ่มถอนหายใจออกมาแรงๆ โน้มตัวไปช้อนอีกคนมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน ทำไมวายร้ายอย่างเขาต้องมาดูแลเด็กที่ไม่รู้จักด้วยวะ
“จะพาผมไปไหน” ร่างขาวดิ้นเล็กน้อยในอ้อมกอดอุ่น แต่ก็นะ เขาบาดเจ็บอยู่จะไปดิ้นให้เปลืองแรงทำไม ขดตัวคู้ในอ้อมแขนแกร่งนี่ก็ไม่ได้แย่แถมได้มองหน้านายวายร้ายในมุมนี้ก็ดีเหมือนกัน

“เงียบเถอะ”

“อะไร รำคาญเหรอ? คุณรำคาญผมยิ่งอยากพูดนะ ผมเควิน คิดว่าคุณอยากรู้ แล้วก็ คุณรู้ตัวไหม คุณหล่อมากเลยนะ”

“อยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะ”

“เฮ้ คุณขรึมกว่าที่ผมคิดนะเนี่ย”

“หยุดพูดทีเถอะ”

“ไม่อ่ะ ผมชอบเวลาคิ้วเข้มๆของคุณตอนขมวดอ่ะ”

“ทำไมเจ็บขนาดนี้ยังพูดมากได้นะ”

แล้วบูลส์อายก็อุ้มเควินออกจากบาร์ที่เขาเจอกัน ทั้งสองคุยกันในหลายเรื่องๆ ทั้งอดีต ทั้งปัจจุบัน ทั้งอนาคต แลกเปลี่ยนความคิดกันไปมา อย่าคิดว่าโรแมนติกเชียวล่ะ เพราะคนที่คุย คือฆาตกร แล้วฆาตกรทั้งสองคนจะคุยอะไรกันล่ะ


ถ้าไม่ใช่การฆ่าคน


-END-  


Note: เป็นการมโนข้ามโลกที่เกิดจากคลิป เอยูหนึ่งในยูทูป หลายท่านอาจเคยเห็น เลยคิดว่าจะลองดูเขียนขึ้นมาดู อาจจะมึนๆงงๆเหมือนเรื่องก่อน เพราะไม่มีพล็อต และอยากเขียนก็เขียนเลย อาจจะดูมึนๆงงๆ ต้องขออภัยด้วยนะคะ

ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดช่วยบอกเค้าด้วยน้า

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2560

[One Shot] Begin Again : Percivel x Credence

[One-Shot] Begin Again : Percival x Credence
Title: Begin Again
Pairing: Percival x Credence
Fandom: Fantastic Beast And Where to Find Them
Rate: (?)
Note: เป็นฟิคเรื่องแรกนะคะ มาจากความคิดว่านิวท์มองไปเศษออบคูรัสที่ปลิวไป และเราคิดว่าถ้าเครเดนซ์ไม่ได้หายไปจะเป็นยังไง ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ



หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นกลางเมืองนิวยอร์ก ทุกอย่างคืนสู่ปกติโดยเหล่าพ่อมดแม่มด และความทรงจำของโนแมจทุกคนที่เกี่ยวกับผู้มีเวทย์มนต์ก็ถูกลบเลือนไป ทุกคนลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้น โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่พวกเขาลืมเลือนกันไปนั้นยังมีอยู่
               
                เศษเสี้ยวพลังมืดของเครเดนซ์ล่องลอยไปไร้ที่หมาย กระทั่งมันหยุดนิ่งอยู่ในซอกหลืบลับในท่าเรือ ที่ที่ไม่มีใครสามารถสังเกตเด็กหนุ่มยืนตัวเปื่อยเปล่าไร้อาภรณ์ ไม่มีแล้วพลังงานด้านมืดที่เหล่าพ่อมดแม่มดเรียกมันว่า ออบคูรัส เหลือเพียงแต่เด็กหนุ่มรูปร่างผอมสูง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

                คุณเกรฟ อยู่ไหน

                นั่นคือสิ่งแรกที่เครเดนซ์คิด ในเหตุการณ์ตอนนั้น คนที่ทำให้เขาคุ้มคลั่งไม่ใช่คุณเกรฟตัวจริงเป็นเพียงพ่อมดศาสตร์มืดกรินเดลวัลด์ที่บังอาจใช้หน้าตาของคุณเกรฟมาหลอกใช้เขา

                มันทำอะไรคุณเกรฟ

                คำถามอีกหนึ่งผุดขึ้นมาในความคิด

                ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่แรกรึเปล่า

                คนที่เขารักคือใครกันแน่ ใช่คนที่หักหลังเขาหรือเปล่า

                หลากหลายคำถามถาโถมเด็กหนุ่มที่นั่งตัวสั่นด้วยความหนาวในตอกมืด เสียงสะอื้นเล็ดลอดจากไรฟันขาว ตอนนี้เขาไม่รู้อะไรเลย ทั้งหนาว ทั้งหิว ทั้งสับสน

                คนที่เข้ามาหาเขาตอนนั้นด้วยสายอ่อนโยนพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น ใช่คุณเกรฟจริงหรือเปล่า หรือเป็นเพียงการล่อลวงของพ่อมดชั่วคนนั้น เครเดนซ์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายวัยกลางคนที่มีรอยยิ้มบางๆให้เขาเสมอ มีตัวจริงหรือเปล่า

                หลอกลวง ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้มันหลอกลวง

                ทั้งความรัก ความห่วงใย ทุกคนหลอกลวง แม้แต่หนุ่มอังกฤษที่ชื่อนิวท์ สคามันเดอร์ เครเดนซ์ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เขาต้องกำลังหลอกเราแน่ๆ หนุ่มน้อยคิด เมื่อคิดได้ดังนั้น ควันสีดำก็พวยพุ่งออกจากร่างขาวอีกครั้ง

                ทำลาย ทำลายให้หมด

                พวกแก พวกแก

                เลว

                สติที่เหลืออยู่ขาดสะบั้น ควันสีดำแผ่กระจายไปทั่วทิศทาง เล็ดลอดออกจากตอกมืด พายุที่เคยสงบ บัดนี้ มันโหมกระหน่ำอีกครั้ง พลังงานด้านมืดเกาะกุมจิตใจเด็กหนุ่ม แม้จะลดลงไป แต่ความรุนแรงยังคงสามารถทำให้ผู้คนหวาดกลัว

                ควันสีดำกลุ่มใหญ่กวาดทำลายทุกสิ่งตรงหน้า กลืนกินทุกสิ่งให้มลายหายไปกลายเป็นฝุ่นผง ไม่มีการยกเว้น ไม่มีการปราณี เครเดนซ์ดำดิ่งสู่ความมืดมิด ไม่มีแสงสว่างให้เขาได้ไขว่คว้าอีกแล้ว


                เสียงกรีดร้องของโนแมจดังขึ้นเรียกความสนใจให้นิวท์ได้หันหลังออกจากตัวเรือที่เขาจะใช้นั่งกลับไปอังกฤษ ประเทศเล็กๆที่เขาจากมา หลังจากช่วยเก็บกวาดกับทางมาคูซ่า และ ช่วยเหลือมิสเตอร์เกรฟ ที่ถูกพ่อมดกรินเดลวัลด์ทำร้ายร่างกายจนสาหัส

                มิสเตอร์เกรฟเล่าว่าก่อนหน้าที่จะถูกกรินเดลวัลทำร้าย เขามีสายสัมพันธ์ที่ดีกับเครเดนซ์ จนเป็นต้นเหตุให้กรินเดลวัลด์รู้ว่าเครเดนซ์เป็นออบสคูเรียล


                และตอนนี้สองขาของหนุ่มอังกฤษก้าวไปหยุดอยู่ตรงหน้าของพายุสีดำทมิฬอย่างไม่หวาดกลัว ใบหน้าที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนของนิวท์เชิดขึ้นมองพลังงานดำมืด รอยยิ้มเอ็นดูถูกประดับอยู่บนใบหน้าของนิวท์

                เธอ คิดว่าฉันจะหลอกเธออีกคนงั้นเหรอ?

                เสียงทุ้มก้องกังวานในหัวของเด็กหนุ่ม คำตอบคือ ใช่ เด็กหนุ่มกลัวว่านิวท์จะหลอกเขา

                ฉันไม่ทำร้ายเธอ ฉันรู้ว่าเธอรู้

                น้ำตาใสหยดลงจากตาคู่ที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง เครเดนซ์รู้ รู้ว่านิวท์แตกต่าง
                รู้อะไรไหม? มิสเตอร์เกรฟน่ะ เขาเป็นห่วงเธอมากนะ
               
                ยินดีที่จะมากับฉันไหม? เครเดนซ์

                พายุสงบลง เป็นคำตอบ เครเดนซ์เลือกจะเชื่อใจนิวท์ เลือกที่จะเชื่อว่าคุณเกรฟที่เขาเคารพมีอยู่จริง เลือกที่จะเชื่อว่าคนที่เขารักคือเพอร์ซิวัล เกรฟ ตัวจริง

-END-