วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2560

[Fic] I just wanna love you #Gradence #END

Title : I just wanna love you
Chapter : 8
Pairing : Percival x credence


Warning : ฟิคเรื่องนี้ไม่มีพล็อต ไม่มีเนื้อเรื่องตายตัว ถ้าสับสนมึนงงตรงไหน บอกเรานะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะ



………………..

I just wanna love you





          แมรี่ยังไม่ตาย


          ตอนนี้หญิงสาวถูกจับแต่งตัวเรียบร้อยและทำแผลเรียบร้อยโดยคนที่ทำเธอนั่นแหละ เพอร์ซิวัลกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทานข้าวตรงข้ามกับแมรี่ที่ยังคงสลบไม่รู้เรื่องรู้ราว ชายหนุ่มทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งนิ่งๆมองเด็กหนุ่มทำอาหารเย็น กระทั่งเครเดนซ์ยกอาหารต่างๆมาวางบนโต๊ะแล้วหย่อนก้นนั่งข้างแมรี่
          “ผมมีอะไรจะแนะนำคุณอย่างนะ ถ้าอยากจะไป ไปตอนนี้ เพราะหลุดจากคืนนี้ไปคุณจะไม่มีวันได้หนีอีก” เครเดนซ์เท้าแขนไว้บนโต๊ะแล้วช้อนดวงตากลมมองคนรักที่ดูตกใจจนทำอะไรไม่ถูกตั้งแต่ที่เขาอุ้มร่างเล็กเข้ามาในบ้าน ถ้าหากเพอร์ซิวัลจะรับไม่ได้เขาก็เข้าใจ ถ้าหากเพอร์ซิวัลจะแจ้งตำรวจจับเขาตอนนี้เขาก็ยินดีเช่นกัน



          “ฉันอยากรู้ว่าเธอทำทำไม?” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเย็น



          “ผมไม่คิดว่าอยากจะบอก” เครเดนซ์ส่ายหน้าหลบตาชายหนุ่มก่อนลงมือหั่นไก่ตัวโตที่อบด้วยสมุนไพรให้เพอร์ซิวัลก่อนหั่นให้ตัวเอง “ผม..รักคุณนะ รักมาก และผมรู้ว่าคุณก็รักผม  แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะรับผมได้กับเหตุผลงี่เง่าๆที่ทำให้ผมกลายมาเป็นแบบนี้ได้” มือบางสั่นน้อยๆเหมือนกำลังมีเรื่องที่ทำให้กังวลอยู่ในหัว นัยน์ตาสีสวยวูบไหวมองเพอร์ซิวัลที่นั่งฝั่งตรงข้ามก่อนมันจะหลุบต่ำมองชิ้นไก่ในจานแทน



          “ลองบอกมาสิ” เพอร์ซิวัลพยายามพูดอย่างใจเย็นกับคนตรงหน้า เพราะเขาไม่รู้ว่าอาการผิดปกติของเด็กหนุ่มมันเป็นยังไง เขาไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มจะคุ้มคลั่งได้ถึงขั้นไหน และเขาจะไม่เสี่ยงทำอะไรที่คิดว่าเป็นสาเหตุของการผิดปกตินั่น



          “อย่าพยายามคุณเลยเกรฟส์ ตอนนี้คุณมีสิทธิ์แค่เดินออกไปแจ้งตำรวจตอนนี้ซะ”


          ใบหน้าของเด็กหนุ่มพยักเพยิกไปทางประตูที่อยู่ด้านของเพอร์ซิวัลแต่ดวงตายังคงจดจ้องที่ใบหน้าคมก่อนจะค่อยๆมองไปที่ริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าชายหนุ่มอย่างหลงใหล


         
“เครเดนซ์..ฉันแค่อยากรู้ ถ้าฉันรู้ฉันอาจจะช่วยอะไร...”



          “ไม่มีใครช่วยผมได้ นอกจากตัวผมตอนนี้ คุณเกรฟส์..ถ้าคุณไม่ไป ผมจำเป็นต้องทำร้ายคุณ เหมือนที่ผมทำกับเธอ เพราะผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้นานนัก คุณเข้าใจใช่ไหม? ผมรู้ว่าคุณเข้าใจ และผมกำลังควบคุมตัวเองต่อไปไม่ไหวแล้ว” เด็กหนุ่มพูดแทรกเพอร์ซิวัล มือขาวกุมกันไว้ราวกับพยายามให้มันอยู่นิ่ง ดวงตาสีนิลของเครเดนซ์เบิกกว้างมองผู้บริหารหนุ่มอย่างน่ากลัว


          “คุณอาจจะตกใจที่ผมเป็นแบบนี้ ตอนที่ผมอยู่กับคุณ ผมไม่ได้เป็นแบบนี้ ใช่ เพราะการที่ต้องมาเจอหน้าเธอคนนี้ทำผมกำลังจะบ้า และมีความสุขไปพร้อมๆกัน  รู้อะไรไหม?เวลาที่ผมเห็นเลือดสีสดกำลังไหลออกจากแผลบนหนังเหี่ยวๆของเธอ มันโคตรจะมีความสุขเลย แต่ถ้าเลือดนั่นเป็นของคุณ ผมสาบานกับตัวเองไว้เลยว่าถ้ามันเป็นยังงั้น หัวสมอง..ของผม จะไม่อยู่ในกะโหลกของผมอีก...ต่อไป เพราะฉะนั้น  ได้โปรด ไปซะ ไม่อย่างนั้น คุณจะได้ตายทั้งเป็นเพราะผมจะจับคุณพันด้วยลวดหนามไม่ให้คุณไปไหน แล้วกรีดเอ็นที่ข้อเท้าของคุณออกมาพันที่ลวดหนามนั่นอีกที แล้วจะไม่ใช่แค่นั้น..คุณเกรฟส์ คุณเห็นผู้หญิงข้างๆผมไหม? ใช่ คุณเห็น แน่นอนสิ คุณเห็นเธออยู่..แล้วฟังผมอยู่ เธอคันมากๆ คุณจะรู้สึกดีถ้าเข้าไปอยู่ในตัวเธอ โอ๊ะ! ไม่ใช่เข้าไปแบบนั้น ขอโทษที เพราะการเข้าไปแบบนั้นมีแค่ผมที่ทำได้ ฮะ ที่ผมหมายถึงคือ เนื้อของคุณถูกเธอกลืนลงท้อง แล้วถูกย่อย น่าสนุกนะ คุณว่าไหม? ใช่ คุณคิดว่ามันน่าสนุก ใช่ ผมรู้..มาลองเลยดีไหม? ไม่น่าถามแหะ ต้องทำเลยสิ ...จะไปไหนคุณเกรฟส์?”



ระหว่างที่เครเดนซ์กำลังร่ายยาว เพอร์ซิวัลรู้ว่าเขารับไม่ไหวอีกต่อไป เขาค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินถอยหลังไปทางประตูช้าๆ ดวงตาคมของเพอร์ซิวัลมองไปที่คนรักที่มองไล่สัดส่วนของเขาพลางพูดเกี่ยวกับที่จะทรมานเขายังไง ดวงตากลมตวัดขึ้นมองชายหนุ่มที่ตอนนี้อยู่ตรงหน้าประตูก่อนจะแย้มยิ้มออกมา

“ขอให้คุณโชคดีครับ ที่รัก” เครเดนซ์ยิ้มกว้าง ยิ้มอย่างสว่างไสวราวกับแสงอาทิตย์ในหน้าร้อนทำเอาเพอร์ซิวัลเผลอคิดว่าภาพเครเดนซ์ที่จ้องจะฉีกเอ็นเขาเป็นภาพลวงตา



แต่ก็แค่เผลอ



ร่างสูงสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดว่าเครเดนซ์ยังเป็นเด็กหนุ่มใสซื่อของเขาออกจากหัวก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูแล้วรีบวิ่งไปที่รถ แต่แล้วเขาต้องชะงักและกัดฟันแน่น เมื่ออยู่เขาก็คิดถึงใบหน้าหวานที่ยิ้มอย่างสดใส และดวงตากลมที่คอยมองเขามาตลอด


บ้าจริงๆเลยว่าไหม เขาเห็นรถของเขาอยู่ตรงนั้น แค่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงแต่เพอร์ซิวัลเลือกที่จะหันหลังกลับ และเปิดประตูเดินกลับมาหาร่างโปร่งที่นั่งเหม่อลอยหันหน้าไปทางหญิงสาว



ถ้าถามว่าทำไม?




เพอร์ซิวัลตอบได้แค่ว่าเขาทิ้งเด็กหนุ่มให้อยู่แบบนี้ไม่ได้




ต้องมีคนช่วยเด็กคนนั้น



เครเดนซ์เหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขาก่อนขมวดคิ้ว แต่เพอร์ซิวัลไม่สนใจก้มลงทานชิ้นไก่เย็นชืดที่เครเดนซ์เป็นคนหั่นให้ก่อนหน้านั้น


“วันนี้ได้งานไหม?”
เพอร์ซิวัลถามทั้งๆที่ไม่ละมืออกจากอาหารตรงหน้า เครเดนซ์เค้นหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะตอบ


“ไม่ครับ ผมยังไม่ได้ไปหาเลย”


“งั้นพรุ่งนี้ก็ว่างใช่ไหม?”

  
“ครับ”



“ไปกับฉันนะ”


“จะพาผมไปหาหมอใช่ไหม?”


เพอร์ซิวัลชะงักก่อนจะเงยหน้ามองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่กำลังมองเขาพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้น


“ใช่”


ทั้งโต๊ะตกอยู่ในความเงียบ จนกระทั่งแมรี่ตื่นขึ้น เธอครางในลำคอก่อนยกมือขึ้นกุมศีรษะที่มีผ้าพันแผลอยู่
“ตื่นแล้วก็ทานอาหารเย็นนะครับ” เครเดนซ์ใช้ส้อมจิ้มชิ้นไก่ที่หั่นไว้พอดีคำจ่อปากหญิงสาว แต่ดูเหมือนสติเธอยังกลับมาไม่เต็มที่นักเลยไม่ได้อ้าปากรับได้แต่มองไปรอบๆจนสะดุดกับชายหนุ่มร่างสูงคนรักของหลานชายตัวเอง


“แกได้สิ่งที่ต้องการแล้วนี่เครเดนซ์ ทำไมยังไม่ปล่อยฉันไปอีก”


หญิงสาวก้มลงมองมือตัวเองที่ปกติมันจะถูกมัดด้วยเชือกเส้นหยาบแต่ตอนนี้มันเป็นอิสระ เธอหันไปมองเครเดนซ์ที่กำลังมองเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง


“คุณรู้ดีอยู่แก่ใจ”


แมรี่ตัวสั่นเทิ้มเมื่อเครเดนซ์พูดจบประโยคก่อนจะร้องไห้ออกมา เธอพล่ำพูดแต่คำขอโทษแต่เด็กหนุ่มได้แต่ฟังแล้วเงียบ เพอร์ซิวัลที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ระหว่างทั้งสองก็ได้แต่นั่งมองเงียบๆเช่นกัน


“สำนึกผิดเหรอครับ?”



เครเดนซ์พูดขึ้น ก่อนจะประคองใบหน้าของหญิงสาวขึ้นมองที่เขา เธอพยักหน้าเบาๆ


“งั้นทำไมครับ? คุณทำ..ทำไม?”


“ป้าขอโทษ ป้าแค่ไม่อยากให้แกคบกับเขา ป้ารักแก รักแกมากๆ รักมากเกินไป ป้าอยากให้แกอยู่กับป้าตลอดไป ป้าขอโทษป้าผิดเอง”


“หึ..” แมรี่มองเด็กหนุ่มที่เค้นหัวเราะออกมาเบาๆอย่างไม่เข้าใจ “แค่นั้นเหรอ?  ป้าทำร้ายผมขนาดนั้นเพราะรักผมเหรอ? คิดว่าผมรู้สึกดีเหรอที่ป้ารักผมในความหมายนั้น คิดว่าผมจะรักป้ากลับแล้วไม่มีวันกลับไปหาเขาเหรอ งั้นเหรอ? แล้วดีไหมล่ะ ผมกลายเป็นแบบนี้ เป็นคนบ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วเกลียดป้า ดีไหมครับ?”


เครเดนซ์เหยียดยิ้มมุมปากมองผู้เป็นป้าที่กำลังร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง มือบางบีบเข้าหากันแน่นไม่ให้สั่นไปมากกว่านี้ น้ำตาที่เครเดนซ์เกลียดกำลังไหลออกจากดวงตากลมของเขาอย่างห้ามไม่ได้


“คุณทำให้ผมเกลียดทั้งคุณ เกลียดทั้งตัวเอง รังเกียจตัวเองที่เผลอรู้สึกดีกับการกระทำของคุณ แต่แม่งก็แค่รู้สึกดีแค่กาย แต่ใจผม..ผมเจ็บ หัวของผม..ก็เจ็บ แล้วผมต้องบังคับให้เขาต้องมาเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ ผม..ผม.” เด็กหนุ่มพูดไม่ออก ฟันขาวกัดปากอวบแน่นๆระคนนึกคำพูดไม่ออก


“ป้าขอโทษ..”
แมรี่ก้มหน้าลงร้องไห้กุมมือขาวหลานชายไว้แนบอกแต่เครเดนซ์สะบัดออก




“ผมก็ขอโทษครับ”


.
แล้วเลือดสีสดก็กระฉูดออกจากคอของแมรี่ที่มีมีดหั่นไก่ปัดอยู่ ดวงตาสีเทาวูบไหวเล็กน้อยก่อนที่มันจะสงบลงและไร้ประกายในที่สุด เครเดนซ์ดึงมีดเล็กนั่นออกจากคอขาวช้าๆก่อนจะกระหน่ำแทงเข้าไปในจุดเดิมซ้ำๆก่อนจะปักมันลงบนศีรษะของแมรี่ เด็กหนุ่มก้มลงเอาหูแนบกับอกผอมของหญิงสาวแล้วถอนหายใจออกมา

“ขอโทษจากใจจริงๆครับป้า เอาล่ะ”
เครเดนซ์พยุงตัวเองลุกขึ้นแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ด้านหลังของเพอร์ซิวัลที่นั่งนิ่งเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เสียงหายใจติดขัดของชายหนุ่มทำให้เครเดนซ์ดีใจ อย่างน้อยคนแก่กว่าก็ไม่ได้ตกใจจนหัวใจวาย



“ผมรู้ว่าคุณตกใจ คุณเกรฟส์ แต่ช่วยขับรถไปส่งสถานีตำรวจหน่อยได้ไหม?”


.
.
.
เพอร์ซิวัลขับรถพาเครเดนซ์ไปสถานีตำรวจ โดยมีที่มือของเด็กหนุ่มมีเชือกรัดไว้อยู่ เขาทิ้งศพของแมรี่ไว้ที่บ้านคิดว่าพอแจ้งตำรวจแล้ว พวกเขาคงมาจัดการกันเอง

“เธอแน่ใจเหรอ?”
คนแก่กว่าถามทั้งๆที่รู้คำตอบจากใบหน้าเรียบนิ่งของคนข้างๆ
“ครับ..ดีที่สุดแล้ว” เครเดนซ์ก้มหน้ามองมือตัวเองที่กุมกันไว้แน่นจนชื้นเหงื่อก่อนเงยหน้ามองทาง “เรื่องนี้มันไร้เหตุผลจนน่าหัวเราะเลยใช่ไหมล่ะครับ ป้ารักผมแต่กลับทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจผม จนผมเสียสติและทำร้ายเธอตอบ ตอนที่ผมกลับไปหาคุณน่าจะลืมไปซะ แต่ผมกลับมาทำร้ายเธออีก แต่คุณก็ดูตกใจแค่นิดเดียวไม่ถึงขั้นสติแตกไม่เหมือนที่ผมคิดไว้ทั้งที่เห็นผมกระซวกป้าแท้ๆของตัวเองด้วยมีดหั่นไก่จนกลายศพแท้ๆ”
เด็กหนุ่มมองทางไปเรื่อยพร้อมกับพูดเสียงใสเหมือนเป็นแค่เรื่องธรรมดาที่ใครเขาก็ทำกัน ต่างจากเพอร์ซิวัลที่แทบกลั้นหายใจตลอดทางเพราะภาพที่เห็นร่างโปร่งยกมีดขึ้นสูงแล้วกระหน่ำแทงผู้เป็นป้านับครั้งไม่ถ้วนยังติดตา

.
.
.
เพอร์ซิวัลพาเด็กหนุ่มเข้าไปยังสถานีตำรวจ ณ เวลานั้นเป็นช่วงค้ำมืดจึงไม่มีผู้คนสัญจรไปมาซักเท่าไหร่นักและตำรวจก็อยู่เวรกันน้อยคน เขาเข้าแจ้งความเรื่องที่เห็นคนรักของตัวเองแทงป้าแท้ๆของเด็กหนุ่ม เครเดนซ์ยินยอมโดยจับ และเมื่อถึงรุ่งเช้าพวกตำรวจก็พากันไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและทำแผนการสารภาพ ส่วนเขาก็ได้แต่ให้การในโรงพัก

.
เครเดนซ์ต้องไปอยู่ในเรือนจำเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วต้องเข้ารักษาอาการทางจิต ส่วนเพอร์ซิวัลก็กลับไปทำงานและใช้ชีวิตเหมือนเดิม แทบจะลืมทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กหนุ่มแต่เขาจำได้ว่ารักเครเดนซ์แค่ไหน และจำได้ว่าเครเดนซ์ฆ่าป้าของตัวเองยังไง ผ่านไปหลายปีภาพที่ของเหลวสีสดกระเซ็นเปรอะเปื้อนดวงหน้าขาวยังฝังอยู่ในหัว




บางที..เขาอาจจะรักเครเดนซ์ที่เป็นแบบนั้นมากกว่าก็ได้




-END-



Note : จบเถอะ มันมาไกลเกินไปจนกู่ไม่กลับแล้ว เป็นฟิคที่ไร้เหตุผลโคตรเลยว่าไหม แย่ๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ สนุกไหมเราไม่รู้เนอะ แต่เราสนุกมาก มันสุดโต่งและงี่เง่าจนเราคิดไม่ถึงอ่ะ ตอนเขียนบทพูดของเครเดนซ์นี่แบบ โอ๊วว ฮ่าๆ ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่ติดตามฟิคงี่เง่าของเราจนจบ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะ รักค่ะ.

ป.ล. ถ้ายังไม่เบื่อกัน เราอาจจะมีฟิคเรื่องใหม่มาให้อ่านกันนะคะ ทนๆหน่อยนะ ยังเจอกันอีกนาน

วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

[Fic] I just wanna love you #Gradence #8

Title : I just wanna love you
Chapter : 8
Pairing : Percival x credence


Warning : ฟิคเรื่องนี้ไม่มีพล็อต ไม่มีเนื้อเรื่องตายตัว ถ้าสับสนมึนงงตรงไหน บอกเรานะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะ




………………..

I just wanna love you

         




เมื่อเพอร์ซิวัลกลับมาถึงบ้านก็พบเครเดนซ์กำลังใส่เสื้อโค้ทเหมือนกำลังจะออกไปด้านนอกยืนอยู่หน้าประตู แต่ไม่ทันที่จะถามอะไรมือขาวก็ฉวยกุญแจรถในมือเขาไปถือไว้และฉุดมือเขาให้เดินตาม ก่อนจะดันตัวร่างใหญ่ให้เข้าไปนั่งที่นั่งข้างคนขับแล้วพาตัวเองไปนั่งฝั่งคนขับอย่างรวดเร็ว

          “อะไรกัน  ให้ฉันพักก่อนไม่ได้เหรอ? แล้วจะพาฉันไปไหนเนี่ย? !!!” เสียงทุ้มพูดเมื่อมือขาวเริ่มสตาร์ทเครื่องก่อนจะหงายหลังแล้วเซไปด้านหน้าเพราะเด็กหนุ่มดันเหยียบคันเร่งและเบรคกะทันหัน

          “เข็มขัดครับ”
          ทันทีที่สิ้นเสียงแหบหวานร่างใหญ่ก็หงายหลังอีกครั้งก่อนจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดหลังจากที่รถคันงามออกตัวอย่างแรง



          จะรีบไปไหนเนี่ย!



          “ไปหาป้าน่ะครับ เธอคิดถึงผมมากๆ งอแงอยากให้ผมไปหา” เด็กหนุ่มยิ้มมุมปากแบบที่เพอร์ซิวัลไม่เคยเห็น ดวงตากลมซุกซนราวกับกำลังตื่นเต้นเหมือนเด็กที่อยากเร่งให้ถึงมื้อเย็นเพื่อจะได้กินอาหารจานโปรดยังไงยังงั้น



          ซึ่งมันดูน่ารักและน่ากลัวในสายตาของเพอร์ซิวัล



          “แล้วมีใบขับขี่เหรอ? ขับรถเป็นได้ไง?” เสียงทุ้มถามพลางมองด้านข้างของใบหน้าหวาน เครเดนซ์ไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้าเบาๆ และมีเพียงเสียแอร์เบาๆที่พอจะไม่ทำให้ภายในเงียบจนน่าอึดอัด


.
.
.
          เวลาผ่านไปจากข้างทางที่เต็มไปด้วยตึกสูงใหญ่ สภาพแวดล้อมวุ่นวายเริ่มเปลี่ยนไปเป็นทุ่งนาและบ้านหลังเล็กๆ เวลาผ่านไปนานมากๆแต่ก็ไม่มีเสียงหนึ่งในสองคนนี้ดังขึ้นเลย กระทั่งชายหนุ่มที่อายุมากกว่าอีกคนเริ่มต้นพูดก่อน


         
          “แล้วอีกไกลไหมกว่าจะถึง”


          "ถึงแล้วครับ.."


          แล้วรถก็หยุดลงตรงบ้านหลังเล็กๆที่รอบข้างเป็นลานกว้างๆมีสวนดอกไม้อยู่ทันทีที่สิ้นเสียงเพอร์ซิวัลก่อนที่ร่างโปร่งจะปลดเข็มขัดลงจากรถและเดินไปเปิดประตูไม่สนใจคนแก่ที่นั่งเหวอทำตัวไม่ถูกอยู่


         
“ออกไป!



          เพล้ง!



          เสียงอะไรซักอย่างแตกดังขึ้นหลังจากที่เสียงแหลมตะโกนออกมาจากตัวบ้าน เพอร์ซิวัลไม่สามารถรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเปิดประตูรถลงแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที
ภาพที่เพอร์ซิวัลเห็นทำให้เขาเข่าแทบอ่อน ของเหลวสีแดงสดกำลังไหลช้าๆจากหน้าผากมนลงสู่ปลายคางและกำลังไหลเปรอะเปื้อนเสื้อตัวโคร่งของเด็กหนุ่มที่ยืนนิ่งมองผู้เป็นป้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง บนพื้นมีเศษแก้วที่แตกละเอียดกระจัดกระจาย เดาไม่ยากว่านั่นเป็นสาเหตุของเลือดที่ไหลอาบใบหน้าขาว ส่วนคนทำก็น่าจะเป็นหญิงสาวร่างเล็กดวงตากร้าวที่กำลังมองร่างโปร่งพร้อมหยาดน้ำใสที่เอ่อล้น
เครเดนซ์ค่อยๆเดินไปหาหญิงสาวที่กำลังก้าวถอยหลังช้าๆพร้อมส่ายหน้าเบาๆก่อนที่เธอจะหยุดแล้วมองเงยหน้าใบหน้าหลานชายตัวเอง ก่อนที่มือขาวของเด็กหนุ่มร่างโปร่งจะถูกยกขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตาบนหน้าของแมรี่

“ไม่ร้องนะครับ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว” แขนยาวของเด็กหนุ่มสวมกอดหญิงสาวที่เป็นป้าไว้แนบอกพลางลูบแผ่นหลังเล็กเบาๆ ก่อนจะหันหน้ามาทางเพอร์ซิวัลแล้วทำปากพูดแบบไม่มีเสียงว่า ไม่เป็นอะไร


.
.
.
เครเดนซ์เดินลงมาจากบันไดหลังจากพาแมรี่ขึ้นไปนอนได้สำเร็จ ร่างโปร่งค่อยๆเดินมานั่งข้างๆเพอร์ซิวัลก่อนจะเอนหัวพิงไหล่กว้าง แต่ต้องกลับมานั่งตัวตรงเพราะร่างสูงดันออกแล้วมือกร้านก็ประคองใบหน้าขาวหันซ้ายขาวเพื่อดูรอยแผลก่อนที่จะหยิบกล่องพยาบาลมาวางไว้บนตัก



“เล่ามาซิว่าเกิดอะไรขึ้น?”



“ไม่มีอะไรหรอกครับ เธอแค่ตกใจนึกว่าโจรมาทำร้ายเธอ ช่วงนี้เธอดูอาการไม่ดี ผมกะว่าวันหยุดนี้จะพาเธอไปหาหมออยู่”

เครเดนซ์เล่าขณะหลับตาให้เพอร์ซิวัลทำแผล

“ล่าสุดเธอโทรหาผมเพราะคิดถึงผมประจวบกับที่เธอเล่าว่าเมื่อวันก่อนเห็นคนบุกเข้ามาจะฆ่าเธอ ผมเลยต้องรีบมา”

“ทำไมไม่เอาเธอไปอยู่ด้วยกันล่ะ” เพอร์ซิวัลถามต่อพร้อมกับใช้สำลีชุบแอลกอฮอลล์มาเช็ดรอบแผล

“เธอดึงดันจะอยู่ที่นี่น่ะครับ ผมก็ไม่รู้จะหว่านล้อมเธอยังไงเลยปล่อยเลยตามเลย แล้วคิดว่าจะมาหาเธอบ่อยๆแทน”

“เหรอ..งั้นทุกวันหยุดเรามาหาเธอดีไหม?” จบประโยคเพอร์ซิวัลก็แปะเทปกับสำลีเสร็จพอดี เครเดนซ์พยักหน้าแล้วลืมตาขึ้นมองอีกคนก่อนจะยกมือขึ้นลูบที่สำลี

“ครับ คุณเก่งจัง ขอบคุณนะครับ” ปากอิ่มแย้มยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะโน้มตัวกอดเอวสอบแล้วซุกใบหน้าลงบนอกแกร่ง “ขอบคุณที่เข้าใจ ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันนะครับ”

“ฉันยินดี”

สิ้นเสียงทุ้ม เพอร์ซิวัลก็มือขึ้นลูบหัวทุยๆของคนรัก โดยไม่สังเกตเห็นสายตาเครเดนซ์มองไปที่ชั้นสองที่แมรี่อยู่
         


“ป้าจะต้องดีใจแน่ๆครับ ถ้าเห็นผมมีความสุขตอนนี้”



.
.
.
          “ฮึกก..เด็กสารเลว ฉันเลี้ยงแกมาอย่างดี แกตอบแทนฉันด้วยการทำอย่างนี้น่ะหรือ?” เสียงสะอื้นเบาๆดังมาจากแมรี่ที่เนื้อตัวเปลือยเปล่าโดนมัดติดกับเก้าอี้และพันด้วยลวดหนามรอบตัว หยาดน้ำใสไหลลงมาอาบแก้มไม่หยุดหย่อน



          แต่ก็นะ



          มันเป็นความผิดของเธอ


         
          เธอต้องชดใช้เป็นธรรมดา




.
.
.
          เมื่อมื้อเย็นมาถึงเพอร์ซิวัลก็อาสาออกไปซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อซื้อของมาทำอาหารให้ แล้วทิ้งเครเดนซ์อยู่ดูแลแมรี่เพราะคิดว่าถ้าแมรี่อยู่คนเดียวอาจจะมีอันตราย 


          หารู้ไม่ว่า เครเดนซ์นี่แหละอันตรายสำหรับแมรี่



          “เจ็บไหมครับ?” เครเดนซ์ถามพร้อมกับย่อตัวนั่งยองตรงหน้าแมรี่


          หลังจากที่เขาบอกทางไปซุปเปอร์มาเก็ตให้เพอร์ซิวัลแล้วยืนส่งจนรถคันงามลับตา เด็กหนุ่มก็รีบขึ้นมาหาผู้เป็นที่รักทันที มือขาวค่อยๆดึงลวดหนามที่พันรอบตัวหญิงสาวออกช้าๆก่อนจะเลื่อนมือไปลูบรอยแผลเล็กที่ต้นขาของผู้เป็นป้า



          “ผมบอกแล้วใช่ไหมครับว่าอย่าขยับเยอะ ดูสิเป็นแผลเลย”

         
          “คุณเกรฟส์กำลังไปซื้อของมาทำมื้อเย็นให้ ดีใจใช่ไหมครับ?” เครเดนซ์เงยหน้ายิ้มเย็นให้กับแมรี่ที่กำลังลงมองมาด้วยน้ำตา


          “อะไรกัน แค่นี้ทนไม่ได้เหรอ ผมทนมาตั้งหลายปียังร้องไม่เท่าคุณเลยนะ” นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำใสออกจากใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแห่งกาลเวลาช้าๆก่อนที่ร่างโปร่งจะลุกขึ้นยืนแล้วโอบกอดร่างเล็กไว้แนบอก “เดี๋ยวผมก็ปล่อยคุณไป เชื่อสิ อีกไม่นานหรอก”


          “จริงเหรอ? แกจะปล่อยฉันจริงๆนะ! เครเดนซ์!

          แมรี่หน้าตาตื่นมองเครเดนซ์ที่ผละเธอออกจากอ้อมกอดหลังจากที่ได้ยินคำพูดจากร่างโปร่ง เด็กหนุ่มแย้มยิ้มหวานให้กับหญิงสาวที่ถูกมัดอยู่ก่อนรอยยิ้มนั้นจะหุบลงพร้อมกับดวงตากร้าวที่ปรากฏขึ้นประดับบนใบหน้าหวาน


          “ครับ อีกไม่นาน”


.
.
.
          เสียงโวยวายจากในบ้านทำให้เพอร์ซิวัลต้องรีบลงจากรถโดยทิ้งของที่ซื้อมาไว้ ก่อนจะวิ่งเข้าบ้านหลังเล็กทันที และทันทีที่เข้าไปภายในตัวบ้านมีดปลายแหลมก็พุ่งตรงมาที่เขาอย่างเร็วจนร่างสูงหลบไม่ทัน คนที่โยนมาก็คือหญิงสาวร่างเล็กที่ตัวเปลือยกำลังกวัดแกว่งมีดอีกเล่มไปมา เพอร์ซิวัลหันไปมองเด็กหนุ่มร่างโปร่งที่ยืนอยู่ข้างโซฟา เนื้อตัวสั่นเทา ดวงตาเบิกโตราวกับทำอะไรไม่ถูก


          “ออกไป!! เลิกยุ่งกับฉันซักที พาคนของแกออกไป!” หญิงสาวถือมีดด้วยสองมือแล้วตวัดมาชี้หน้าเพอร์ซิวัลก่อนจะตะโกนลั่น แล้วหยาดน้ำใสก็พรั่งพรูออกมาจากตาคู่สวยของแมรี่ เธอกัดปากตัวเองแน่นมองไปที่เครเดนซ์อีกครั้ง

          “ป้าครับ..ผมไม่เข้าใจ ทำไมป้าถึงไม่ต้องการผม” น้ำเสียงแหบหวานสั่นเครือเพราะแรงสะอื้น เครเดนซ์ร้องไห้จนตัวโยนทำอะไรไม่ถูกที่เห็นป้าแท้ๆของตนหันมีดเข้าหาราวกับเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจ นั่นทำให้เพอร์ซิวัลสงสารคนรักจับใจ

          “โกหก! แกมันขี้โกหกและหน้าด้าน! ทำไมแกไม่พูดเรื่องที่แกทำไว้กับฉันให้คนรักของแกฟังล่ะ เขาจะได้รู้ในความชั่วของแก!

          มีดทำครัวปลายแหลมพุ่งตรงไปหาร่างโปร่งก่อนมันจะเฉียดไปที่แขนบางแล้วหล่นลงบนพื้น มือขาวกุมแผลไว้แน่น เครเดนซ์เงยหน้ามองผู้เป็นป้าด้วยใบหน้าเงียบนิ่งจนหญิงสาวชะงักก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเศร้าหมองอย่างรวดเร็วทำให้เพอร์ซิวัลหันมามองไม่ทัน

          ร่างสูงชาร์จไปที่ตัวหญิงสาวที่เงียบนิ่งไปก่อนจะรวบเธอด้วยมือข้างเดียว

          “เครเดนซ์ไปหาเชือกมา เร็ว!

          ร่างโปร่งที่ดูตื่นตระหนกพยักหน้ารับเร็วก่อนจะรีบพาตัวเองไปหาเชือกที่ไหนซักแห่งโดยทิ้งให้คนรักไว้กับผู้เป็นป้า


          “ช่วยฉันที”

          เสียงแหลมกระซิบเบาๆให้เพอร์ซิวัลได้ยิน ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวสั่นระริกราวกับหวาดกลัวอะไรซักอย่างจนไม่สามารถบังคับตัวเองได้

          “เด็กคนนั้น..เปลี่ยนไป ได้โปรด..คุณต้องเชื่อฉัน เขาไม่ใช่เครเดนซ์คนเดิมอีกแล้ว”
          แมรี่พูดเสียงสั่น เธอสะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆจนเพอร์ซิวัลต้องลูบหลังเปลือยของหญิงสาวเบาๆเพื่อเป็นการปลอบให้เธอใจเย็น แล้วรอฟังในสิ่งเธอกำลังจะพูดต่อไป


          “มันเป็นความผิดของฉันที่พาเขามาที่นี่ เป็นความผิดของฉันที่ทำร้ายเขาแบบนั้น ฉันไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำร้ายฉันตอบ ฉัน..”

          “ใจเย็นๆครับ ค่อยๆพูด ผมฟังคุณอยู่” เพอร์ซิวัลตั้งใจฟังในสิ่งที่แมรี่พูดโดยเชื่อครึ่งและไม่เชื่อครึ่ง เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง

          “ไม่! คุณไม่เข้าใจ เด็กคนนั้นจะฆ่าฉัน คุณต้องพาฉันออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!



          แมรี่บิดมือไปมาให้หลุดออกจากกอบกุมของชายหนุ่มก่อนจะวิ่งออกไปด้านนอก โดยที่เพอร์ซิวัลรีบตามไปทันทีที่หญิงสาววิ่งออกจากประตูบ้าน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเธอล้มลงไปนอนกับพื้นหญ้าพร้อมกับอะไรซักอย่างกระทบดังสนั่น ก่อนที่ของเหลวสีสดจะไหลออกมาจากรอยแผลกว้างบนศีรษะของหญิงสาว



          ปั้ก!


          เสียงของหนักหล่นลงพื้น มันเป็นอิฐก้อนใหญ่ที่มีเลือดติดอยู่เพราะแรงกระแทกเมื่อซักครู่ และมันหลุดออกมาจากมือขาวของเด็กหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดที่กระเซ็นมาจากร่างของผู้เป็นป้า

          เพอร์ซิวัลเบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา เขาค่อยๆก้าวถอยหลังช้าๆก่อนล้มลงอย่างหมดแรง เขาเงยหน้าเด็กหนุ่มคนรักที่เดินมาอยู่ตรงหน้าแล้วยิ้มให้เขาแบบที่ยิ้มให้เขา แต่ต่างไปที่ดวงตากลมที่เขาเคยหลงใหลบัดนี้มันว่างเปล่าจนไม่เห็นเงาในดวงตา



          “มาทานข้าวเย็นกันเถอะครับ”


          -To be continue-




          Note : ยัง ยังไม่จบ คิดไม่ถึงเลยนะคะว่าจะมาถึงจุดนี้ จุดที่เรื่องออกทะเลไปไกลถึงมหาสมุทร เราขอโทษนะคะ ขอโทษจากใจจริงๆ ตอนแรกจะจบตั้งแต่ที่เขารักกัน แต่เราดื้ออยากจะต่อเรื่องมันก็เลยเป็นแบบนี้ แงงงง ยังไงก็ฝากติดตามต่อไปเรื่อยๆนะคะ มาลุ้นตอนจบด้วยกัน ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ