วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

[Fic] I just wanna love you #Gradence #8

Title : I just wanna love you
Chapter : 8
Pairing : Percival x credence


Warning : ฟิคเรื่องนี้ไม่มีพล็อต ไม่มีเนื้อเรื่องตายตัว ถ้าสับสนมึนงงตรงไหน บอกเรานะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะ




………………..

I just wanna love you

         




เมื่อเพอร์ซิวัลกลับมาถึงบ้านก็พบเครเดนซ์กำลังใส่เสื้อโค้ทเหมือนกำลังจะออกไปด้านนอกยืนอยู่หน้าประตู แต่ไม่ทันที่จะถามอะไรมือขาวก็ฉวยกุญแจรถในมือเขาไปถือไว้และฉุดมือเขาให้เดินตาม ก่อนจะดันตัวร่างใหญ่ให้เข้าไปนั่งที่นั่งข้างคนขับแล้วพาตัวเองไปนั่งฝั่งคนขับอย่างรวดเร็ว

          “อะไรกัน  ให้ฉันพักก่อนไม่ได้เหรอ? แล้วจะพาฉันไปไหนเนี่ย? !!!” เสียงทุ้มพูดเมื่อมือขาวเริ่มสตาร์ทเครื่องก่อนจะหงายหลังแล้วเซไปด้านหน้าเพราะเด็กหนุ่มดันเหยียบคันเร่งและเบรคกะทันหัน

          “เข็มขัดครับ”
          ทันทีที่สิ้นเสียงแหบหวานร่างใหญ่ก็หงายหลังอีกครั้งก่อนจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดหลังจากที่รถคันงามออกตัวอย่างแรง



          จะรีบไปไหนเนี่ย!



          “ไปหาป้าน่ะครับ เธอคิดถึงผมมากๆ งอแงอยากให้ผมไปหา” เด็กหนุ่มยิ้มมุมปากแบบที่เพอร์ซิวัลไม่เคยเห็น ดวงตากลมซุกซนราวกับกำลังตื่นเต้นเหมือนเด็กที่อยากเร่งให้ถึงมื้อเย็นเพื่อจะได้กินอาหารจานโปรดยังไงยังงั้น



          ซึ่งมันดูน่ารักและน่ากลัวในสายตาของเพอร์ซิวัล



          “แล้วมีใบขับขี่เหรอ? ขับรถเป็นได้ไง?” เสียงทุ้มถามพลางมองด้านข้างของใบหน้าหวาน เครเดนซ์ไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้าเบาๆ และมีเพียงเสียแอร์เบาๆที่พอจะไม่ทำให้ภายในเงียบจนน่าอึดอัด


.
.
.
          เวลาผ่านไปจากข้างทางที่เต็มไปด้วยตึกสูงใหญ่ สภาพแวดล้อมวุ่นวายเริ่มเปลี่ยนไปเป็นทุ่งนาและบ้านหลังเล็กๆ เวลาผ่านไปนานมากๆแต่ก็ไม่มีเสียงหนึ่งในสองคนนี้ดังขึ้นเลย กระทั่งชายหนุ่มที่อายุมากกว่าอีกคนเริ่มต้นพูดก่อน


         
          “แล้วอีกไกลไหมกว่าจะถึง”


          "ถึงแล้วครับ.."


          แล้วรถก็หยุดลงตรงบ้านหลังเล็กๆที่รอบข้างเป็นลานกว้างๆมีสวนดอกไม้อยู่ทันทีที่สิ้นเสียงเพอร์ซิวัลก่อนที่ร่างโปร่งจะปลดเข็มขัดลงจากรถและเดินไปเปิดประตูไม่สนใจคนแก่ที่นั่งเหวอทำตัวไม่ถูกอยู่


         
“ออกไป!



          เพล้ง!



          เสียงอะไรซักอย่างแตกดังขึ้นหลังจากที่เสียงแหลมตะโกนออกมาจากตัวบ้าน เพอร์ซิวัลไม่สามารถรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเปิดประตูรถลงแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที
ภาพที่เพอร์ซิวัลเห็นทำให้เขาเข่าแทบอ่อน ของเหลวสีแดงสดกำลังไหลช้าๆจากหน้าผากมนลงสู่ปลายคางและกำลังไหลเปรอะเปื้อนเสื้อตัวโคร่งของเด็กหนุ่มที่ยืนนิ่งมองผู้เป็นป้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง บนพื้นมีเศษแก้วที่แตกละเอียดกระจัดกระจาย เดาไม่ยากว่านั่นเป็นสาเหตุของเลือดที่ไหลอาบใบหน้าขาว ส่วนคนทำก็น่าจะเป็นหญิงสาวร่างเล็กดวงตากร้าวที่กำลังมองร่างโปร่งพร้อมหยาดน้ำใสที่เอ่อล้น
เครเดนซ์ค่อยๆเดินไปหาหญิงสาวที่กำลังก้าวถอยหลังช้าๆพร้อมส่ายหน้าเบาๆก่อนที่เธอจะหยุดแล้วมองเงยหน้าใบหน้าหลานชายตัวเอง ก่อนที่มือขาวของเด็กหนุ่มร่างโปร่งจะถูกยกขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตาบนหน้าของแมรี่

“ไม่ร้องนะครับ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว” แขนยาวของเด็กหนุ่มสวมกอดหญิงสาวที่เป็นป้าไว้แนบอกพลางลูบแผ่นหลังเล็กเบาๆ ก่อนจะหันหน้ามาทางเพอร์ซิวัลแล้วทำปากพูดแบบไม่มีเสียงว่า ไม่เป็นอะไร


.
.
.
เครเดนซ์เดินลงมาจากบันไดหลังจากพาแมรี่ขึ้นไปนอนได้สำเร็จ ร่างโปร่งค่อยๆเดินมานั่งข้างๆเพอร์ซิวัลก่อนจะเอนหัวพิงไหล่กว้าง แต่ต้องกลับมานั่งตัวตรงเพราะร่างสูงดันออกแล้วมือกร้านก็ประคองใบหน้าขาวหันซ้ายขาวเพื่อดูรอยแผลก่อนที่จะหยิบกล่องพยาบาลมาวางไว้บนตัก



“เล่ามาซิว่าเกิดอะไรขึ้น?”



“ไม่มีอะไรหรอกครับ เธอแค่ตกใจนึกว่าโจรมาทำร้ายเธอ ช่วงนี้เธอดูอาการไม่ดี ผมกะว่าวันหยุดนี้จะพาเธอไปหาหมออยู่”

เครเดนซ์เล่าขณะหลับตาให้เพอร์ซิวัลทำแผล

“ล่าสุดเธอโทรหาผมเพราะคิดถึงผมประจวบกับที่เธอเล่าว่าเมื่อวันก่อนเห็นคนบุกเข้ามาจะฆ่าเธอ ผมเลยต้องรีบมา”

“ทำไมไม่เอาเธอไปอยู่ด้วยกันล่ะ” เพอร์ซิวัลถามต่อพร้อมกับใช้สำลีชุบแอลกอฮอลล์มาเช็ดรอบแผล

“เธอดึงดันจะอยู่ที่นี่น่ะครับ ผมก็ไม่รู้จะหว่านล้อมเธอยังไงเลยปล่อยเลยตามเลย แล้วคิดว่าจะมาหาเธอบ่อยๆแทน”

“เหรอ..งั้นทุกวันหยุดเรามาหาเธอดีไหม?” จบประโยคเพอร์ซิวัลก็แปะเทปกับสำลีเสร็จพอดี เครเดนซ์พยักหน้าแล้วลืมตาขึ้นมองอีกคนก่อนจะยกมือขึ้นลูบที่สำลี

“ครับ คุณเก่งจัง ขอบคุณนะครับ” ปากอิ่มแย้มยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะโน้มตัวกอดเอวสอบแล้วซุกใบหน้าลงบนอกแกร่ง “ขอบคุณที่เข้าใจ ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันนะครับ”

“ฉันยินดี”

สิ้นเสียงทุ้ม เพอร์ซิวัลก็มือขึ้นลูบหัวทุยๆของคนรัก โดยไม่สังเกตเห็นสายตาเครเดนซ์มองไปที่ชั้นสองที่แมรี่อยู่
         


“ป้าจะต้องดีใจแน่ๆครับ ถ้าเห็นผมมีความสุขตอนนี้”



.
.
.
          “ฮึกก..เด็กสารเลว ฉันเลี้ยงแกมาอย่างดี แกตอบแทนฉันด้วยการทำอย่างนี้น่ะหรือ?” เสียงสะอื้นเบาๆดังมาจากแมรี่ที่เนื้อตัวเปลือยเปล่าโดนมัดติดกับเก้าอี้และพันด้วยลวดหนามรอบตัว หยาดน้ำใสไหลลงมาอาบแก้มไม่หยุดหย่อน



          แต่ก็นะ



          มันเป็นความผิดของเธอ


         
          เธอต้องชดใช้เป็นธรรมดา




.
.
.
          เมื่อมื้อเย็นมาถึงเพอร์ซิวัลก็อาสาออกไปซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อซื้อของมาทำอาหารให้ แล้วทิ้งเครเดนซ์อยู่ดูแลแมรี่เพราะคิดว่าถ้าแมรี่อยู่คนเดียวอาจจะมีอันตราย 


          หารู้ไม่ว่า เครเดนซ์นี่แหละอันตรายสำหรับแมรี่



          “เจ็บไหมครับ?” เครเดนซ์ถามพร้อมกับย่อตัวนั่งยองตรงหน้าแมรี่


          หลังจากที่เขาบอกทางไปซุปเปอร์มาเก็ตให้เพอร์ซิวัลแล้วยืนส่งจนรถคันงามลับตา เด็กหนุ่มก็รีบขึ้นมาหาผู้เป็นที่รักทันที มือขาวค่อยๆดึงลวดหนามที่พันรอบตัวหญิงสาวออกช้าๆก่อนจะเลื่อนมือไปลูบรอยแผลเล็กที่ต้นขาของผู้เป็นป้า



          “ผมบอกแล้วใช่ไหมครับว่าอย่าขยับเยอะ ดูสิเป็นแผลเลย”

         
          “คุณเกรฟส์กำลังไปซื้อของมาทำมื้อเย็นให้ ดีใจใช่ไหมครับ?” เครเดนซ์เงยหน้ายิ้มเย็นให้กับแมรี่ที่กำลังลงมองมาด้วยน้ำตา


          “อะไรกัน แค่นี้ทนไม่ได้เหรอ ผมทนมาตั้งหลายปียังร้องไม่เท่าคุณเลยนะ” นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำใสออกจากใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแห่งกาลเวลาช้าๆก่อนที่ร่างโปร่งจะลุกขึ้นยืนแล้วโอบกอดร่างเล็กไว้แนบอก “เดี๋ยวผมก็ปล่อยคุณไป เชื่อสิ อีกไม่นานหรอก”


          “จริงเหรอ? แกจะปล่อยฉันจริงๆนะ! เครเดนซ์!

          แมรี่หน้าตาตื่นมองเครเดนซ์ที่ผละเธอออกจากอ้อมกอดหลังจากที่ได้ยินคำพูดจากร่างโปร่ง เด็กหนุ่มแย้มยิ้มหวานให้กับหญิงสาวที่ถูกมัดอยู่ก่อนรอยยิ้มนั้นจะหุบลงพร้อมกับดวงตากร้าวที่ปรากฏขึ้นประดับบนใบหน้าหวาน


          “ครับ อีกไม่นาน”


.
.
.
          เสียงโวยวายจากในบ้านทำให้เพอร์ซิวัลต้องรีบลงจากรถโดยทิ้งของที่ซื้อมาไว้ ก่อนจะวิ่งเข้าบ้านหลังเล็กทันที และทันทีที่เข้าไปภายในตัวบ้านมีดปลายแหลมก็พุ่งตรงมาที่เขาอย่างเร็วจนร่างสูงหลบไม่ทัน คนที่โยนมาก็คือหญิงสาวร่างเล็กที่ตัวเปลือยกำลังกวัดแกว่งมีดอีกเล่มไปมา เพอร์ซิวัลหันไปมองเด็กหนุ่มร่างโปร่งที่ยืนอยู่ข้างโซฟา เนื้อตัวสั่นเทา ดวงตาเบิกโตราวกับทำอะไรไม่ถูก


          “ออกไป!! เลิกยุ่งกับฉันซักที พาคนของแกออกไป!” หญิงสาวถือมีดด้วยสองมือแล้วตวัดมาชี้หน้าเพอร์ซิวัลก่อนจะตะโกนลั่น แล้วหยาดน้ำใสก็พรั่งพรูออกมาจากตาคู่สวยของแมรี่ เธอกัดปากตัวเองแน่นมองไปที่เครเดนซ์อีกครั้ง

          “ป้าครับ..ผมไม่เข้าใจ ทำไมป้าถึงไม่ต้องการผม” น้ำเสียงแหบหวานสั่นเครือเพราะแรงสะอื้น เครเดนซ์ร้องไห้จนตัวโยนทำอะไรไม่ถูกที่เห็นป้าแท้ๆของตนหันมีดเข้าหาราวกับเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจ นั่นทำให้เพอร์ซิวัลสงสารคนรักจับใจ

          “โกหก! แกมันขี้โกหกและหน้าด้าน! ทำไมแกไม่พูดเรื่องที่แกทำไว้กับฉันให้คนรักของแกฟังล่ะ เขาจะได้รู้ในความชั่วของแก!

          มีดทำครัวปลายแหลมพุ่งตรงไปหาร่างโปร่งก่อนมันจะเฉียดไปที่แขนบางแล้วหล่นลงบนพื้น มือขาวกุมแผลไว้แน่น เครเดนซ์เงยหน้ามองผู้เป็นป้าด้วยใบหน้าเงียบนิ่งจนหญิงสาวชะงักก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเศร้าหมองอย่างรวดเร็วทำให้เพอร์ซิวัลหันมามองไม่ทัน

          ร่างสูงชาร์จไปที่ตัวหญิงสาวที่เงียบนิ่งไปก่อนจะรวบเธอด้วยมือข้างเดียว

          “เครเดนซ์ไปหาเชือกมา เร็ว!

          ร่างโปร่งที่ดูตื่นตระหนกพยักหน้ารับเร็วก่อนจะรีบพาตัวเองไปหาเชือกที่ไหนซักแห่งโดยทิ้งให้คนรักไว้กับผู้เป็นป้า


          “ช่วยฉันที”

          เสียงแหลมกระซิบเบาๆให้เพอร์ซิวัลได้ยิน ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวสั่นระริกราวกับหวาดกลัวอะไรซักอย่างจนไม่สามารถบังคับตัวเองได้

          “เด็กคนนั้น..เปลี่ยนไป ได้โปรด..คุณต้องเชื่อฉัน เขาไม่ใช่เครเดนซ์คนเดิมอีกแล้ว”
          แมรี่พูดเสียงสั่น เธอสะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆจนเพอร์ซิวัลต้องลูบหลังเปลือยของหญิงสาวเบาๆเพื่อเป็นการปลอบให้เธอใจเย็น แล้วรอฟังในสิ่งเธอกำลังจะพูดต่อไป


          “มันเป็นความผิดของฉันที่พาเขามาที่นี่ เป็นความผิดของฉันที่ทำร้ายเขาแบบนั้น ฉันไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำร้ายฉันตอบ ฉัน..”

          “ใจเย็นๆครับ ค่อยๆพูด ผมฟังคุณอยู่” เพอร์ซิวัลตั้งใจฟังในสิ่งที่แมรี่พูดโดยเชื่อครึ่งและไม่เชื่อครึ่ง เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง

          “ไม่! คุณไม่เข้าใจ เด็กคนนั้นจะฆ่าฉัน คุณต้องพาฉันออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!



          แมรี่บิดมือไปมาให้หลุดออกจากกอบกุมของชายหนุ่มก่อนจะวิ่งออกไปด้านนอก โดยที่เพอร์ซิวัลรีบตามไปทันทีที่หญิงสาววิ่งออกจากประตูบ้าน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเธอล้มลงไปนอนกับพื้นหญ้าพร้อมกับอะไรซักอย่างกระทบดังสนั่น ก่อนที่ของเหลวสีสดจะไหลออกมาจากรอยแผลกว้างบนศีรษะของหญิงสาว



          ปั้ก!


          เสียงของหนักหล่นลงพื้น มันเป็นอิฐก้อนใหญ่ที่มีเลือดติดอยู่เพราะแรงกระแทกเมื่อซักครู่ และมันหลุดออกมาจากมือขาวของเด็กหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดที่กระเซ็นมาจากร่างของผู้เป็นป้า

          เพอร์ซิวัลเบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา เขาค่อยๆก้าวถอยหลังช้าๆก่อนล้มลงอย่างหมดแรง เขาเงยหน้าเด็กหนุ่มคนรักที่เดินมาอยู่ตรงหน้าแล้วยิ้มให้เขาแบบที่ยิ้มให้เขา แต่ต่างไปที่ดวงตากลมที่เขาเคยหลงใหลบัดนี้มันว่างเปล่าจนไม่เห็นเงาในดวงตา



          “มาทานข้าวเย็นกันเถอะครับ”


          -To be continue-




          Note : ยัง ยังไม่จบ คิดไม่ถึงเลยนะคะว่าจะมาถึงจุดนี้ จุดที่เรื่องออกทะเลไปไกลถึงมหาสมุทร เราขอโทษนะคะ ขอโทษจากใจจริงๆ ตอนแรกจะจบตั้งแต่ที่เขารักกัน แต่เราดื้ออยากจะต่อเรื่องมันก็เลยเป็นแบบนี้ แงงงง ยังไงก็ฝากติดตามต่อไปเรื่อยๆนะคะ มาลุ้นตอนจบด้วยกัน ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น