วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

[Fic] I just wanna love you #Gradence #3

Title : I just wanna love you
Chapter : 3
Pairing : Percival x credence


Warning : ฟิคเรื่องนี้ไม่มีพล็อต ไม่มีเนื้อเรื่องตายตัว ถ้าสับสนมึนงงตรงไหน บอกเรานะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะ




………………..

I just wanna love you






“ขอโทษที่พูดไปแบบนั้นนะ”

เสียงทุ้มนุ่มของใครบางคนที่พูดคำนี้ให้เครเดนซ์ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวใจที่เต้นแรงหลังจากได้ยิน ร่างสูงที่ขับรถมาส่งเด็กหนุ่มที่คลินิกพูดคำขอโทษด้วยสีหน้าที่เหมือนจะรู้สึกผิด ไม่รู้สิ เครเดนซ์ไม่แน่ใจซักเท่าไหร่นัก เขาเพียงแค่เห็นดวงตาคมสีน้ำตาลไหม้นั่นวูบไหวเพียงเล็กน้อยก่อนจะสงบนิ่งดั่งเดิม
เครเดนซ์ไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้นเพียงแต่พยักหน้ารับรู้ให้อีกคนเห็นก่อนจะลงจากรถคันหรู ไม่ทันเห็นสายตาคมที่ดูเว้าวอนไม่อยากให้ร่างโปร่งลงจากรถตน ก่อนที่เครเดนซ์จะหันกลับและก้มตัวลงเล็กน้อยมองคนในรถที่กำลังสนใจแต่ถนน ก่อนจะพูดประโยคประโยคนึงไป


“ผมจะยกโทษให้ถ้าคุณมารับผมตอนห้าโมงเย็น”


เสียงแหบหวานของใครบางคนที่พูดหลังจากที่เขากล่าวขอโทษอีกคนไป หลังจากนั้นร่างโปร่งก็หันหลังกลับวิ่งเข้าคลินิกเล็กๆนั่นไป ปล่อยให้คนแก่กว่าที่ไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา ได้แต่ยิ้มขำออกมาอย่างตกใจนิดๆ



ไม่บอกก็กะจะรอรับอยู่แล้วล่ะ




“เครเดนซ์ เป็นอะไร เหม่อตั้งแต่เข้ามาแล้ว ถ้าไม่สบายกลับก่อนได้นะ”

นิวท์ สคาร์มันเดอร์ สัตว์แพทย์หนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลูกจ้างที่เปรียบเสมือนน้องชายของตนดูเหม่อลอยไม่เป็นอันทำอะไรตั้งแต่เข้ามาภายในคลินิกแห่งนี้ ทั้งที่ปกติเด็กหนุ่มจะร่าเริงและยิ้มง่ายตลอดเวลาเมื่ออยู่กับสัตว์ต่างๆ แต่ดูตอนนี้สิ ร่างโปร่งเอาแต่เหม่อไม่สนใจสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ที่กำลังอ้อนให้เล่นด้วยแม้แต่น้อย กระทั่งกับร่างสูงที่เป็นเจ้านายก็ยังไม่สนใจที่จะตอบ



รึว่าเพราะคนที่ขับรถมาส่งเมื่อเช้า?


สัตว์แพทย์หนุ่มตั้งข้อสงสัยภายในใจพลางมองเด็กหนุ่มร่างโปร่งที่นั่งอยู่กับพื้นท่ามกลางสัตว์ที่รอเจ้าของมารับ ชายหนุ่มร่างสูงผมแดงใบหน้าตกกระเท้าคางกับเคาน์เตอร์สังเกตพฤติกรรมของเด็กหนุ่มที่เขาจ้างมาด้วยความสงน ถึงแม้เขาจะคลุกคลีกับสัตว์เยอะจนไม่ได้สนใจความรู้สึกของมนุษย์ซักเท่าไหร่ แต่ความผิดปกติของเครเดนซ์เด่นชัดจนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้ และด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ในตัวของนิวท์ทำให้แน่ใจว่าคนที่ทำให้เด็กหนุ่มนั่งเหม่อเหมือนสุนัขรอเจ้าของแบบนั้นคือคนเดียวกันกับคนที่มาส่งเจ้าตัวเป็นแน่



กิ้ง~


เสียงใสของกระดิ่งที่แขวนอยู่เหนือประตูกระจกดังขึ้นเมื่อมืออวบของร่างอ้วนท้วมผลักเข้ามาพร้อมกับกลิ่นหอมของขนมปังอบใหม่ในถุงกระดาษที่มีลูกไม้เล็กๆประดับรอบๆกับโลโก้ร้านขนมปังโควัลสกี้


“ไง นิวท์ ฉันเอาขนมปังมาฝากเครเดนซ์กับนายแหน่ะ” เจคอบเอ่ยทักเมื่อเห็นเพื่อนสนิทอายุน้อยกว่าโบกมือหยอยๆอยู่ตรงเคาน์เตอร์ของคลินิก ก่อนจะพาร่างท้วมของตัวเองไปยืนอยู่ตรงหน้าร่างสูงในชุดกาวน์แพทย์ขาวสะอาดที่เบนความสนใจจากเด็กหนุ่มมาสนใจขนมปังในถุงกระดาษแทน “เฮ้ ไอหนุ่มมากินขนมปังนี่สิ เดี๋ยวนิวท์แย่งกินหมดนะ” เจคอบเอ่ยเรียกเครเดนซ์ที่เลื้อยนอนลงกับพื้นให้แมวพันธุ์หิมาลายันขนฟูนอนบนอกก่อนจะดึงถุงกระดาษที่บรรจุขนมปังไว้เกือบเต็มถุงออกจากนิวท์ที่จ้องจะยัดขนมปังทั้งหมดใส่ปาก


“สวัสดีครับ วันนี้ควีนนี่กับทีน่าไม่มากับคุณเหรอ เจค?” เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่งพลางประคองเจ้าแมวขนฟูมาอุ้มแนบอกก่อนจะมองไปที่เจ้าของร้านขนมปังที่ไร้เงาแฟนสาวกับพี่ของเธอ
“ควีนนี่ลากทีน่าไปชอปปิ้งเป็นเพื่อนน่ะ ฉันเลยมาที่นี่คนเดียว” เจคอบพูดก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวที่เอาไว้สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั่งรอเจ้าตัวน้อยของพวกเขาหน้าเคาน์เตอร์ แต่ตอนนี้มีเจคอบคนเดียวที่นั่งมัน “ลุกขึ้นมากินได้แล้ว อย่ามัวแต่เล่น” ร่างท้วมพูดอีกครั้งเมื่อเห็นเด็กหนุ่มยังไม่ลุกออกจากที่นั่งอยู่ จนเครเดนซ์ต้องลุกขึ้นหยิบขนมปังที่วางอยู่ข้างร่างท้วมมากินเมื่อเห็นสีหน้าดุๆของเจคอบ



บ่ายสาม ช่วงเวลาที่มีผู้ปกครองของเหล่าสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในคลินิกมารับเจ้าตัวเล็กตัวใหญ่กลับบ้านหลังจากการรักษาเสร็จสิ้นตามที่นิวท์เป็นคนนัดไว้ เมื่อพวกเขาพาลูกๆกลับไปก็เหลือเพียงแค่สัตว์บางตัวที่อยู่ในกรงเพื่อทำการรักษาต่อ หลังจากนี้หน้าที่ของเครเดนซ์ก็มีเพียงทำความสะอาดคลินิกและกรงเปล่าที่มีกลิ่นของสัตว์หลงเหลืออยู่ ซึ่งทำเพียงเล็กน้อยก็เสร็จแล้วเพราะคลินิกค่อนข้างสะอาดและกรงก็มีเพียงไม่กี่กรงที่ต้องทำความสะอาด


เหลือเวลาอีก ยี่สิบนาที จะห้าโมงเย็น
เครเดนซ์เงยหน้ามองนาฬิกาเรือนกลมที่แขวนอยู่บนผนังสีขาวสะอาด พลางคิดถึงประโยคที่เขาพูดกับใครบางคนก่อนเข้ามาทำงาน



“ผมจะยกโทษให้ถ้าคุณมารับผมตอนห้าโมงเย็น”



ไม่รู้อะไรดลใจให้เครเดนซ์พูดแบบนั้นออกไป แล้วเด็กหนุ่มก็ไม่รู้ด้วยว่ารู้สึกยังไงตอนพูด นั่นทำให้เขาเหม่อลอยตลอดทั้งวัน แม้จะดึงสติมาทำงานได้อยู่บ้าง แต่เชื่อเถอะ ใจน้อยๆของเด็กหนุ่มไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวตั้งแต่พูดประโยคนั้นออกไปแล้ว เขากังวลมาตลอดทั้งวันว่า..



เขาจะมารับจริงๆไหมนะ?



อาจจะไม่ เราไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอกมั้ง?



เด็กหนุ่มยืนค้ำคางกับปลายมนของไม้ถูพื้น ก่อนจะถอนหายใจให้กับความคิดตัวเอง ผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่เห็นอาการของเครเดนซ์หันหน้ามองกันอย่างสงสัย



“นิวท์ เด็กนั้นถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันนะ?”



“ผมไม่รู้ ผมเลิกนับตั้งแต่ครั้งที่สี่เมื่อตอนเที่ยง” นิวท์ว่าพลางสนใจลูบสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่อยู่ในกรงต่อ “ไม่มีอะไรหรอก ถ้าเจ้าตัวทนไม่ไหวเดี๋ยวก็มาเล่ากับเราเองแหละ”



อีกสิบนาที ห้าโมงเย็น
สายตาคมจ้องมองไปที่นาฬิกาเรือนสวยที่แขวนอยู่ตรงผนังข้างๆป้ายเมนูเหนือเคาน์เตอร์คิดเงินของร้านกาแฟที่อยู่เยื้องๆกับคลินิกสัตว์เลี้ยงที่เพอร์ซิวัลไปส่งเด็กบางคน ร่างสูงมานั่งอยู่ในนี้ตั้งแต่ส่งเด็กคนนั้นเข้าไปด้านในคลินิก เวลาหมดไปเท่าไหร่แล้วไม่รู้ รู้แต่ว่าเขาดื่มกาแฟจนเกือบครบเมนูของร้านแล้ว ถ้าถามว่าเบื่อไหม? ไม่เบื่อหรอก จะเบื่อได้ยังไงในเมื่อเขาเชื่อว่าเจ้าของดวงหน้าขาวนั่นก็กำลังคิดถึงเขาและรอเขาโดยไม่เบื่อเหมือนกัน หรือ ไม่ก็กำลังกังวลว่าเขาจะไปรับตามที่บอกไหมจนไม่เป็นอันทำงาน เชื่อสิเด็กน่ารักๆแบบนั้นเดาออกได้ไม่ยากหรอก
เพอร์ซิวัลไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาให้กับสาวน้อยสาวใหญ่โดยไม่รู้ตัวตั้งแต่เข้ามา ทำให้ทั้งร้านคับคั่งไปด้วยสาวๆที่จ้องจะงาบผู้ชายวัยกลางคนที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นึกถึงใครบางคน




อีกห้านาที ห้าโมงเย็น
เครเดนซ์ยังคงจ้องไปที่นาฬิกาแขวนผนังไม่วางตาเพียงแต่ตอนนี้มือที่ถือไม้ถูพื้นเมื่อสิบห้านาทีก่อนเปลี่ยนเป็นถือขนมปังโควัลสกี้ที่เย็นชืดจ่อปาก ก่อนที่ปากเล็กจะอ้าออกงับขนมปังเป็นคำเล็กแล้วเคี้ยวช้าๆ นิวท์ที่คอยถามว่าเด็กหนุ่มตัวสูงเป็นอะไรตลอดได้แต่ส่ายหน้าเบาๆอย่างหมดหนทาง เจคอบเองก็ด้วย



อีกสี่นาที ห้าโมงเย็น
เพอร์ซิวัลลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่เกือบทั้งวัน ก่อนจะคว้าเสื้อโค้ทที่พาดอยู่ข้างตัวมาใส่ ร่างสูงเดินไปที่เคาน์เตอร์ท่ามกลางสายตาโลมเลียจากผู้หญิงทั้งร้านที่ต้องมนต์สะกดของผู้ชายคิ้วหนาร่างสูงที่ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผู้บริหารหนุ่มคิดว่าเด็กหนุ่มที่ทำงานอยู่ในคลินิกสัตว์เลี้ยงต้องเหนื่อยแน่ๆหลังจากเลิกงาน เขาเลยตั้งใจจะสั่งเครื่องดื่มเย็นๆให้เด็กน้อยของเขาสักหน่อย



อีกสองนาที ห้าโมงเย็น
เด็กหนุ่มละสายตาจากนาฬิกาแขวนผนังแล้ว ดวงตากลมสนใจเจ้าแมวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเจ้าของมัน ท่าทางอิดโรยของเจ้าตัวน้อยทำให้เครเดนซ์ลืมใครบางคนไปซะสนิท และตอนนี้สัตวแพทย์หนุ่มกำลังตรวจเจ้าตัวน้อยอย่างขะมักเขม้นในห้องตรวจ เครเดนซ์มีหน้าที่ดูแลผู้ปกครองด้านนอก พูดคุยและให้กำลังใจ




 อีกหนึ่งนาที ห้าโมงเย็น
ร่างสูงกำลังเดินถือแก้วโกโก้ปั่นที่แต่งด้วยวิปครีมเนื้อเนียนไปที่คลินิกสัตว์ใกล้ๆกัน โดยทิ้งรถของตัวเองไว้หน้าร้านกาแฟที่ตัวเองเดินออกมา พลางคิดถึงใบหน้าหวานที่เขารอเจอมาทั้งวัน




อีกสี่สิบวินาที ห้าโมงเย็น
การวินิจฉัยของนิวท์สิ้นสุดลง เจ้าตัวน้อยไม่ได้เป็นอะไรมากมันแค่เป็นไข้ธรรม สัตว์แพทย์ฉีดยาและสั่งให้อีกเล็กน้อยก่อนจะให้เจ้าของพามันพากลับ เครเดนซ์เก็บอุปกรณ์แพทย์ของนิวท์เรียบร้อยทิ้งแค่เข็มฉีดยาที่เป็นเข็มสำหรับใช้แล้วทิ้ง




อีกยี่สิบวินาที ห้าโมงเย็น
ทั้งสองจ้องมองกันผ่านกระจกของคลินิก มือหนากำลังผลักประตูกระจกใสเข้ามาภายในตัวคลินิก เครเดนซ์ยืนมองเพอร์ซิวัลก้าวมาหาตัว รอยยิ้มจางๆผุดขึ้นบนใบหน้าสวยพร้อมกับที่คนมีอายุมากยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนเด็กกว่า ทว่าร่างสูงก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อเห็นชายหนุ่มผมแดงในเสื้อกาวน์สีขาวตัวยาวเดินออกมาจากด้านหลังเด็กหนุ่ม



          “สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า?” เสียงทุ้มต่ำของนิวท์เอ่ยถามเมื่อเห็นคนมาใหม่ที่ไม่คุ้นหน้า แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่าเขาคือคนที่มาส่งเครเดนซ์เมื่อเช้า และดูเหมือนจะหวงไม่ใช่น้อย ดูสิจ้องเขาจะกินเลือดกินเนื้ออยู่แล้ว


          “ผมมารับเด็กนี่”


          เพอร์ซิวัลตอบก่อนจะยัดแก้วโกโก้ปั่นใส่มือขาวของเด็กหนุ่มตรงหน้า แต่ก็ยังไม่วายหรี่ตามองสัตว์แพทย์หนุ่มที่เหมือนไม่สะทกสะท้านกับสายตาอาฆาตของเขาเลยสักนิด
          เครเดนซ์ผู้เป็นกลางก็เอาแต่มองคนมีอายุมากกว่าตั้งแต่เขาเดินเข้ามา พลางถือแก้วโกโก้ไว้ชิดอกโดยไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี



          “งั้นรอเดี๋ยวนะครับ ผมหยิบค่าจ้างให้เขาก่อน แล้วหลังจากนี้เขาเป็นของคุณนะครับ”

          
           หนุ่มผมแดงว่าก่อนจะก้มตัวไปหยิบเงินในลิ้นชักใต้เคาน์เตอร์โดยไม่รู้ตัวว่าเด็กหนุ่มเป็นของผู้ชายร่างหนาตั้งแต่แรกพบแล้ว ยิ่งคิดหัวข้อสนทนาของทั้งสองอย่างเครเดนซ์ก็ยิ่งหน้าแดง ทำเอาเจ้าตัวก้มหน้าคางชิดอกด้วยความเขินอาย ผิดกับเพอร์ซิวัลที่ได้ยินประโยคนั้นของนิวท์ก็กระตุกยิ้มมุมปากอย่างช่วยไม่ได้ จะว่าไม่เห็นด้วยก็ไม่ใช่ จะว่าถูกใจก็ไม่เชิง



          เด็กนี้เป็นของเขาตั้งแต่แรกที่เห็นแล้ว แค่หลังจากนี้ต้องทำให้ชัดเจนกว่านี้ก็เท่านั้น

         

-To be continue-




Note: มาแบบเรื่อยๆ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะเธอ ไม่รีบ อย่าพึ่งเบื่อกันล่ะ อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างต้นว่าเรื่องนี้ไม่มีพล็อตเนอะ สับสนมึนงงยังไง คำผิดยังไง เราอยากให้เธอบอกเรานะ เราอยากแก้ให้มันดีขึ้น ขอโทษที่มาแบบสั้นๆตลอด รักนะ 

1 ความคิดเห็น:

  1. อูยยยย อารมณ์ตอนรอนี่มันทรมานเนอะะะะะ ไม่ว่าจะตอนรอคนมารับ หรือรอไรต์อัพฟิคค่า 555

    ตอบลบ