Title : I just wanna love you
Chapter : 4
Pairing : Percival x credence
Warning
: ฟิคเรื่องนี้ไม่มีพล็อต ไม่มีเนื้อเรื่องตายตัว
ถ้าสับสนมึนงงตรงไหน บอกเรานะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะ
………………..
I just wanna love you
หลังจากรับเงินค่าจ้างรายวันมาจากนายแพทย์หนุ่ม
เครเดนซ์ก็ได้ล่ำลานิวท์และเจคอบก่อนที่จะเดินออกมาจากคลินิกโดยมีเพอร์ซิวัลเดินตามหลัง
เมื่อทั้งสองออกมาพ้นประตูกระจกของคลินิก
เด็กหนุ่มก็หันหลังกลับมามองคนมีอายุมากกว่าด้วยใบหน้าที่ลังเลราวกับมีอะไรซักอย่างจะพูด
ทำให้เพอร์ซิวัลหยุดแล้วมองใบหน้าขาวพลางเลิกคิ้วเป็นคำถาม
“ผมแค่..อยากจะถามว่าทำไมคุณถึงมา?”
ปากสีซีดเม้มเข้าหากันเหมือนกำลังกลัวคำตอบที่ตอบคำถามของตน
แต่คนถูกถามไม่พูดอะไรนอกจากใช้มือรองแก้วโกโก้ที่อยู่ในมือขาวของเครเดนซ์ขึ้นจนหลอดจรดปากแห้ง
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย
ก่อนจะก้มหน้าลงงับหลอดดูดโกโก้ในแก้วเมื่อเห็นสายตาคมจ้องมา
เมื่อเห็นเด็กหนุ่มดื่มโกโก้ปั่นที่ตัวเองซื้อให้เพอร์ซิวัลก็ลดมือลงคว้ามือขาวที่ว่างมากุมไว้
ก่อนจะดึงเครเดนซ์ให้เดินตามไปที่รถคันหรูที่จอดทิ้งไว้หน้าร้านกาแฟที่เขานั่งมาทั้งวันโดยไม่ตอบคำถามของเด็กหนุ่มที่ถามเขา
เพอร์ซิวัลปลดล็อกประตูรถตัวเองก่อนจะเปิดให้คนตัวเล็กกว่าเข้าไปนั่ง
ก่อนที่ตัวเองจะเดินอ้อมมานั่งฝั่งคนขับโดยมีดวงตากลมจ้องมองเข้าตลอดทุกการกระทำ
ทำให้คนแก่กว่าอย่างเขาได้ใจเผยยิ้มบางๆออกมา รอยยิ้มๆบางๆนั่นดึงดูดจนคนมองอย่างเครเดนซ์หน้าเห่อร้อนออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ได้แต่ก้มหน้าคางชิดอกและเม้มปากไม่ให้ยิ้มตามคนข้างๆ
“คาดเข็มขัดด้วย”
เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกสติของเครเดนซ์ให้เงยหน้าเอี้ยวตัวไปดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดอย่างลนๆ
จนทำให้เพอร์ซิวัลอดขำในใจไม่ได้
น่ารัก...
“คุณยังไม่ตอบผมเลย”
เมื่อคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยทั้งคู่แล้ว
เพอร์ซิวัลก็จัดการสตาร์ทเครื่องเตรียมตัวขับออกจากสถานที่นี้ทันที
หลังจากนั้นเครเดนซ์ก็เอ่ยย้ำให้อีกคนตอบอีกครั้ง
โดยที่ดวงตาสีนิลมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่มองหน้าคู่สนทนาเลยสักนิด
“ดื่มโกโก้นั่นให้หมดซะ
เดี๋ยวพาไปทานข้าวเย็น”
แต่มีหรือที่เพอร์ซิวัลจะสนใจตอบคำถาม
ชายหนุ่มละมือจากเกียร์ข้างตัวไปดันแก้วโกโก้ในมือเครเดนซ์ขึ้นอีกครั้งเป็นการบังคับแบบนัยๆให้อีกคนเลิกถามเขาแล้วดื่มโกโก้ในมือให้หมดซะ
ไม่ใช่ไม่อยากตอบ
แค่ยังไม่ถึงเวลา
เครเดนซ์ก้มหน้าก้มตาดื่มโกโก้ปั่นในมือตามที่เพอร์ซิวัลบอก
โดยไม่ติดใจอะไรกับประโยคที่ชายหนุ่มว่าจะพาไปทานข้าวเย็นด้วยกันซักนิด
เพียงแค่คิดว่าเพอร์ซิวัลจะพากลับบ้านแล้วกินข้าวเย็นกับป้าแมรี่ปกติ
แต่ก็ต้องหยุดคิดแบบนั้นทันทีที่เพอร์ซิวัลหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าภัตตาคารหรูที่เป็นทางผ่านก่อนจะเป็นทางกลับบ้าน
เพอร์ซิวัลผ่อนเครื่องลงหน้าภัตตาคาร
ก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วเดินลงจากรถอ้อมไปเปิดประตูฝั่งเครเดนซ์ที่ยังคงเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ได้
ร่างสูงยกมือค้ำกับขอประตูรถตนเองแล้วมองคนที่ยังคงนั่งอยู่ในรถ
เครเดนซ์ดูลังเลเล็กน้อยก่อนจะหันมามองหน้าคนมีอายุมากกว่าราวกับมีคำถาม
แต่ก็ต้องกลืนคำพูดทั้งหมดลงแล้วจำใจก้าวลงจากรถเมื่อเห็นพนักงานต้อนรับมองมาทางเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
ผู้บริหารหนุ่มโยนกุญแจรถของเขาให้พนักงานก่อนเดินนำร่างโปร่งเข้าไปในตัวร้าน
ก่อนจะหยุดแล้วหันมาคว้าแก้วโกโก้ปั่นที่หมดไปเกือบครึ่งแก้วจากมือขาวมาทิ้งลงถังขยะข้างประตูร้าน
เมื่อทิ้งเสร็จเพอร์ซิวัลก็ชี้ไปที่ป้ายห้ามเอาอาหารเข้าให้เครเดนซ์ที่กำลังมึนงงเห็น
ก่อนที่เขาจะคว้ามือบางแล้วดึงเบาๆให้เดินตามเขาเข้าร้าน
“คุณเกรฟส์..”
พอเพอร์ซิวัลดึงเครเดนซ์มานั่งที่โต๊ะได้สำเร็จเด็กหนุ่มก็พูดเรียกอีกคนทันที
แต่เจ้าของชื่อก็ยังคงไม่สนใจเด็กน้อยซักนิด
ทำเอาเครเดนซ์ที่โดนเมินก้มหนาลงหงอยๆทันที
อะไรกัน พูดก็ไม่พูด
เป็นใบ้กะทันหันหรือไง แล้วลากมาร้านแพงๆแบบนี้จะมีเงินจ่ายไหมนี้เรา?
ร่างโปร่งพึมพำกับตัวเองในใจก่อนเงยหน้ามองคนที่นั่งตรงข้าม
แล้วก้มลงมองเงินในซองที่นิวท์ให้มาพลางคำนวณว่าจะพอสำหรับค่าห้องไหม
ก่อนจะสดุ้งเมื่ออีกคนถามว่าจะเอาอะไรเพิ่มไหม?หลังจากสั่งของตัวเองเรียบร้อย
“อะ..เอ่อ
ไม่ครับ ขอบคุณ”
เครเดนซ์ส่ายหน้าก่อนก้มลงดื่มน้ำที่พนักงานเอามาเสิร์ฟก่อนหน้านี้
“เอา ซุปเห็ด สลัด
สเต็กมีเดียม แล้วก็ของหวานแนะนำของวันนี้”
เพอร์ซิวัลออกปากสั่งอาหารเพิ่มก่อนจะยื่นเมนูคืนให้พนักงาน
แล้วเขาค่อยประสานมือมาวางบนโต๊ะแล้วเท้าคางมองเด็กหนุ่มที่กำลังก้มหน้าหลบตาเขาพอดี
“มีอะไรก็พูด
ฉันรู้เธออยากถาม อยากพูด แค่ไม่กล้า ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะโกรธ”
เครเดนซ์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนแก่กว่าที่กำลังเท้าคางมองมาด้วยสายตาที่เครเดนซ์เองก็เดาไม่ออกว่าคืออะไร
แค่รู้ว่ามันน่าหลงใหลจนลืมตอบเจ้าของสายตาคม
กระทั่งสายตาคมคู่นั่นเคลื่อนเข้ามาใกล้จนเด็กหนุ่มต้องกลั้นหายใจ
“ฉันรู้ว่าเธอชอบมองฉัน
แต่ไม่จำเป็นต้องมองด้วยสายตาที่น่ารักแบบนั้นสิ ฉันเขินเป็นนะ”
เมื่อความอบอุ่นจากหน้าผากแบนแผ่สู่หน้าผากมนของเครเดนซ์
เพอร์ซิวัลก็พูดออกมาเบาๆให้ได้ยินเพียงสองคน พร้อมเผยยิ้มมุมปากให้อีกคนที่ได้เห็นได้นิ่งไปราวกับถูกสาปให้เป็นหิน
และการถูกสาปก็ต้องแก้ด้วยจุมพิต
เมื่อเห็นเด็กหนุ่มนิ่งไป
เพอร์ซิวัลก็เอียงหน้าเข้าหาเครเดนซ์ช้าๆ
ก่อนที่ริมฝีปากบางจะประทับลงกลีบปากสีซีดเบาๆ
ดวงตาหวานปิดลงน้อมรับจูบที่คนตรงหน้ามอบให้โดยไม่ขัดขืน
เพอร์ซิวัลก็เช่นกัน เขาหลับตา ซึมซับสัมผัสนิ่มหยุ่นของริมฝีปากสากที่เหมือนจะกระหายน้ำตลอดเวลาของเด็กหนุ่มที่ไม่ประสีประสาช้าๆ
ไม่มีการรุกล้ำ
ไม่มีการบดจูบอย่างเร่าร้อนใดใด
ไม่
เพียงแค่จูบ
แค่ปากประกบปาก
ใช่แค่นั้น
แต่แค่นั้นก็ทำให้เสียงเซ็งแซ่รอบข้างได้เงียบสงัดและหายไป
เหลือเพียงเสียงหัวใจของคนสองคนที่เต้นพร้อมๆกัน
.
.
.
เงียบ..
คำเดียวที่ใช้ได้กับบรรยากาศในรถคันงามนี้ได้
ภายในรถมีเพียงเสียงลมจากแอร์เท่านั้นที่ไม่ทำให้เงียบจนเกินไป
หลังจากที่เพอร์ซิวัลผละจูบออกช้าๆ พนักงานก็นำอาหารมาเสิร์ฟพอดี
ทั้งสองคนนั่งเงียบกันทั้งมื้อ ต่างคนต่างเงียบ
ต่างคนต่างทานโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมา เด็กหนุ่มที่เหมือนจะมีคำพูดมากมายกลับเป็นคนแรกที่เปิดประเดิมมื้ออาหารทันทีอาหารมาถึง
ไม่สนสายตาที่มองด้วยความเอ็นดูของชายหนุ่มเลยซักนิด
ไม่ใช่เพราะอึดอัด
แต่เขินอายเกินกว่าจะพูดอะไรออกมา
และในตอนนี้เพอร์ซิวัลได้ขับรถพาเครเดนซ์มาส่งถึงหน้าบ้าน
แต่เจ้าตัวดันนั่งนิ่งก้มหน้าก้มตาไม่ลงจากรถเสียที
“เครเดนซ์
ถ้าเธอโกรธฉันขอโทษนะ ฉันแค่..”
“ผมรักคุณ!”
เพอร์ซิวัลกำลังทำลายความเงียบแต่เด็กหนุ่มก็พูดแทรกขัดจังหวะ
ทำให้ความเงียบปกคลุมอีกครั้ง
เครเดนซ์แค่คิดว่านี้คือโอกาสที่จะบอกรักคนข้างๆเลยโพล่งออกไปพร้อมกับที่เพอร์ซิวัลพูดขอโทษ
นั่นทำให้เด็กหนุ่มที่ได้ยินคำขอโทษน้ำตาเอ่อล้นขอบตาอย่างช่วยไม่ได้
ทำไมล่ะ? ทำไมต้องขอโทษล่ะ?
จูบนั่นเกิดจากความไม่ตั้งใจเหรอ? จูบนั่นเกิดจากแค่บรรยากาศเหรอ?
เขานึกว่าเพอร์ซิวัลชอบเขาเลยจูบเขาซะอีก ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ?
ความคิดมากมายเกี่ยวกับการขอโทษเรื่องจูบตอนนั้นตีกันในหัวของเด็กหนุ่ม
น้ำตาที่ไม่เคยไหลตั้งแต่พ่อและแม่จากไป บัดนี้มันไหลพรุ่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่ได้
ไหล่เล็กห่อเข้าหากันสั่นระริกด้วยแรงสะอื้น ทำให้เพอร์ซิวัลใจหายเมื่อเห็นภาพนี้
ทำไมล่ะ?
บอกรักเขาแล้วร้องไห้ทำไม? เขาทำอะไรผิด? หรือเพราะที่เขาจูบเด็กหนุ่ม?
เขาทำผิดจนเด็กหนุ่มเสียใจที่รักเขาอย่างนั้นเหรอ?
ความคิดมากมายที่เกี่ยวกับน้ำตาของเครเดนซ์ตีกันในหัวของผู้บริหารหนุ่ม
ใจที่ไม่เคยรู้สึกถึงความเจ็บปวด บัดนี้มันบีบรัดจนเขาหายใจไม่ออก
สายตาคมมองไปที่เด็กหนุ่มที่ตัวเล็กกว่าเขาพร้อมกับคิ้วหนาที่ขมวดเข้าหากัน
เพอร์ซิวัลไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไรกับคนตรงหน้า จึงปล่อยให้เครเดนซ์ร้องไห้กับตัวเองเงียบๆ
กระทั่งเครเดนซ์เงยหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาแล้วหันมามองหน้าชายหนุ่ม
เพอร์ซิวัลตั้งใจจะพูดอะไรซักอย่าง แต่เด็กหนุ่มพูดขึ้นก่อนเดินลงจากรถเข้าบ้านไป
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ”
แค่นั้นก่อนเดินจากไป
ทิ้งให้เพอร์ซิวัลพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ฉันก็รักเธอ”
.
.
.
.
ปึง!
“เครเดนซ์กลับมาแล้วเหรอ?”
แมรี่ที่ได้เสียงปิดประตูจากห้องเครเดนซ์เดินออกมาจากครัวก่อนจะตะโกนขึ้นถามหาเด็กหนุ่ม
แต่ก็มีแต่ความเงียบที่ตอบกลับมา สายตาแมรี่ยังคงมองไปที่ชั้นสองของบ้าน หวังว่าเครเดนซ์จะตะโกนตอบมาซักนิดก็ยังดี
ร่างโปร่งทรุดลงนั่งกับพื้นหน้าประตูห้องแล้วร้องไห้ออกมา
ยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วปล่อยสะอื้นจนตัวโยน เฝ้านึกคิดว่าการที่ไปบอกรักเพอร์ซิวัลคือการผิดพลาดครั้งใหญ่
ถ้าปล่อยให้อีกคนพูดให้จบประโยคคงไม่น่าจะเสียใจเท่านี้
ถ้าไม่บอกรักไปเพอร์ซิวัลคงไม่รู้สึกผิดและเงียบไปแบบนั้น
เขาและเพอร์ซิวัลจะยังคงคุยกันได้ฉันท์เพื่อนบ้านได้เหมือนเดิม แต่ใช่
ถ้า..มันไม่มีทางเป็นเหมือนเดิม
เพอร์ซิวัลขับรถกลับมาที่บ้านด้วยจิตใจอันห่อเหี่ยวเมื่อเห็นน้ำตาของคนที่เรียกว่ารักของเขาได้เต็มปาก
ร่างหนาทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาที่พึ่งมาส่งในวันนี้ก่อนจะเหยียดขาเอนตัวลงนอนเอามือก่ายหน้าผาก
คิดไม่ตกว่าตัวเองทำอะไรผิด
เป็นถึงผู้บริหารใหญ่โตทำไมแค่คิดว่าตัวเองทำอะไรผิดจนทำให้เด็กร้องไห้เสียใจขนาดนั้นยังคิดไม่ได้
ลาออกซะดีไหม? เพอร์ซิวัลตั้งข้อสงสัยกับตัวเองก่อนจะวกกลับมาคิดว่าตัวเองทำอะไรผิด
จนแล้วจนรอดก็ยังคิดไม่ออก
“แกมันโง่เพอร์ซิวัล”
ว่าแล้วก็ด่าตัวเองกระเตื้องความคิดซะหน่อย
แต่ก็ยังคิดไม่ออก
ลาออกเลยดีไหม?
-To
be continue-
Note : คุณอาก็ง้อสิคะ! มานั่งๆนอนๆแบบนี้น้องจะหายไหม!! โอเคค่ะ
ขอโทษที่ยังคงมึนๆงงเหมือนเดิมเลย แหะๆ ขอโทษนะคะ... มีคำผิด คำตกหล่นยังไง
บอกเราด้วยนะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ รักนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น