Title : I just wanna love you
Chapter : 2
Pairing : Percival x credence
Warning
: ฟิคเรื่องนี้ไม่มีพล็อต ไม่มีเนื้อเรื่องตายตัว
ถ้าสับสนมึนงงตรงไหน บอกเรานะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะ
………………..
I just wanna love you
วันนี้ยังไงก็ต้องได้คุย!!
นั่นคือคำปฏิญาณของเพอร์ซิวัลที่นอนไม่หลับไปกับพื้นแข็งๆเพราะมัวแต่คิดถึงใบหน้าหวานของใครบางคนที่แค่แอบมองก็ทำให้เพอร์ซิวัลหลงคิดถึงไปหลายวันจนแทบไม่ได้ทำงานทำการ
และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หนุ่มใหญ่อย่างเขาต้องทำอะไรที่ไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่านโดยการตั้งเป้าหมายว่าจะเข้าไปคุยให้ได้!
แต่
ปัญหามีอยู่ว่า
จะเข้าไปคุยยังไง?
คำถามง่ายๆที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทใหญ่ยักษ์ตอบไม่ได้
ทั้งที่มันไม่ได้ต่างอะไรเลยกับการที่เขาเข้าหาหญิงสาวสวยบางคนที่เจอในงานฉลองต่างๆในบริษัท
แต่มันก็ต่างตรงที่เด็กนั่นเป็นผู้ชาย แล้วเพราะเครเดนซ์เป็นผู้ชาย
เขาจะเข้าหาด้วยวิธีที่ใช้กับผู้หญิงไม่ได้ เข้าใจความหมายไหม? นั่นล่ะ
คิดไปคิดมาก็เช้าซะแล้ว
มัวแต่คิดว่าจะเต๊าะเด็กยังไงจนลืมงาน พอนึกขึ้นได้คนเป็นผู้บริหารก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่งทำหน้าเมาน้ำลายสักพักแล้วล้มตัวลงนอนกับพื้นต่อ
พลางคิดว่าเมื่อไหร่เฟอร์นิเจอร์ของเขาเมื่อไหร่จะมา
ถ้าไม่มาในวันนี้จะไปขอเครเดนซ์นอนด้วยจริงๆนะเว้ย!
ซึ่งเป็นความคิดที่สิ้นคิดมากเพราะเขากับเด็กหนุ่มนั่นยังไม่ได้ทำความรู้จักกันเลย
มัวแต่มองกันไปมองกันมา เด็กนั่นอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชื่ออะไร จู่ๆก็ไปขอนอนด้วย
ไก่ตื่นหมด
ออด ออด..
เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ
หลายคนอาจสงสัยว่าทำเขายังลอยหน้าลอยตาเพ้อคิดถึงแต่เด็กที่รู้จักแค่ชื่อ
(และที่อยู่บ้าน) ไม่ไปทำงานทำการซักที คำตอบคือวันนี้วันหยุด
มีแค่งานที่เอากลับมาทำที่บ้านเนี่ย แล้วยังไม่อยากทำตอนนี้ หัวใจคนแก่ไม่มีแรงไม่มีกำลัง
เพราะไม่มีเชื้อเพลิงอย่างหน้าหวานๆนั่น ดูเถอะครับ
แค่ได้เจอได้มองก็เป็นเอามากขนาดนี้ เพอร์ซิวัลต้องยอมรับได้ซักทีว่าหลงเด็กที่เป็นสต็อกเกอร์แอบมองเขาทุกวันตลอดสองสามอาทิตย์คนนั้น
ออด ออด ออด...
เสียงออดดังขึ้นอีกครั้งขัดจังหวะการคิดของเพอร์ซิวัล
จนเจ้าของบ้านจำใจสลัดใบหน้าหวานนั่นออกจากหัวก่อนลุกขึ้นไปเปิดประตูบ้านก่อนจะเดินไปตรงรั้วที่ที่คนที่กดออดยืนอยู่
แต่ด้วยความที่รั้วมันเป็นรั้วที่เตี้ยๆและเป็นซี่ห่างๆ
จึงดูออกได้ง่ายว่าใครเป็นคนที่รบกวนเขา
แม้ระยะห่างระหว่างประตูบ้านกับประตูรั้วจะห่างกันขนาดที่เอาควายทั้งฝูงมาวิ่งเล่นก็ตาม
และใครคนนั้นก็ไม่ใช่ใคร ก็ไอคนที่เขาคิดถึงอยู่นั่นแหละ
เช้าวันหยุดอันสดใสที่ไม่สดใส
เครเดนซ์ตื่นจากที่นอนด้วยอาการหลับๆตื่นๆอย่างเช่นทุกวันเพราะเสียงเคาะกระทะของแมรี่
ป้าของเขากำลังทำอาหารเช้าแบบทุกวัน แต่หยุด ที่จะคิดว่าป้าแมรี่จะตื่นมาทำอาหารเช้าให้เครเดนซ์
หยุดเพียงเท่านั้น ไม่มีทางเป็นไปได้ แล้วไม่มีวันเป็น ครับ
ทุกวันเครเดนซ์ต้องเจียดเงินรายวันเก็บไว้กินข้าว เช้า กลางวัน เย็น
แต่กินครบทุกมื้อไหม?
ไม่
แน่นอน
บางวันต้องอดไป เพราะบางวันนั้นเขาได้เงินไม่ถึงตามเป้าที่คาดไว้
และเด็กหนุ่มต้องให้เงินค่าห้องป้าเท่าเดิมทุกวัน แมรี่ไม่ได้กำหนดอะไรเท่าไหร่ก็ได้แค่ต้องให้
แต่เป็นเขาเนี่ยแหละที่กดดันตัวเองว่าต้องเท่านี้เท่านี้
ก็เลยต้องอดมื้อกินมื้อเมื่อเงินไม่ถึง เป็นการกดดันว่าวันนึง
วันที่เขาไปจากป้าของเขาเอง ชีวิตเขาคงไม่พ้นเป็นแบบนี้และตอนนั้นไม่ใช่แมรี่
ไม่มีการต่อรองแบบนี้อีก นั่นทำให้เขาต้องขยันกว่านี้
อ่า..วันนี้อาจเป็นวันหยุดของใครหลายคน
แต่ไม่ใช่กับเครเดนซ์
และในเมื่อเป็นวันหยุดในการเรียนเขาก็เต็มที่กับการไปทำงานได้
และงานนั่นก็คือการไปช่วยนิวท์ สคาร์มันเดอร์ สัตว์แพทย์หนุ่มเพื่อนสนิทของเจคดูแลคลินิกและสัตว์หลายๆตัว
มันไม่ได้ยากและสนุก เพราะทำแค่ทำความสะอาดคลินิกและดูแลเหล่าสัตว์ต่างๆที่อยู่นอกกรงรอเจ้าของมารับไม่ให้ซนเท่านั้นซึ่งมีไม่กี่ตัวเท่านั้น
ถือเป็นงานที่สบายแล้วได้เงินเยอะที่สุดเลยก็ว่าได้ แถมบ่อยครั้งที่เจคจะเอาขนมปังจากร้านมาฝากพร้อมกับแฟนสาวสุดสวยอย่างควีนนี่ที่มักจะลากทีน่าพี่สาวมาด้วยให้นิวท์ได้มีชีวิตชีวา
เครเดนซ์ที่เหมือนกับน้องชาย หรือ หลาน ?
ไม่แน่ใจก็พลอยได้ยิ้มอย่างมีความสุขได้บ้างเพราะทุกครั้งที่ไปเขาสนุกที่จะเล่นกับสัตว์ทุกตัว
และสนุกมากขึ้นเมื่อเจคมา
ใครๆก็รู้ว่าคุณโควัลสกี้เจ้าของร้านขนมปังเลื่องชื่อเป็นคนตลก
ทำให้ทั้งคนทั้งสัตว์มีความสุขได้ไม่ยาก
และใครๆก็รู้อีกนั่นแหละว่าเพราะเจคเป็นแบบนั้นทำให้คนสวยอย่างควีนนี่ปักใจกับเขา
อ่อ
แล้วก็วันหยุดแบบนี้เด็กหนุ่มก็ใช่ว่าจะไปส่องคนแก่หน้าตาดีคนนั้น เพราะรู้แล้วว่าวันหยุด
เขาก็ต้องหยุดจะไปหาอีกทำไมเล่า ไปแล้วไม่เจอเนี่ย
นั่นแหละ
และตอนนี้เด็กหนุ่มร่างสูงในชุดนอนก็กำลังเดินลงจากบันไดเพราะมีเสียงเรียกจากผู้เป็นป้าที่ดูท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษทำให้อาการเกร็งของเขาลดลงไปบ้าง
แต่ก็ยังมีอยู่
“มีอะไรครับ
ดูอารมณ์ดีจัง”
เครเดนซ์เอ่ยขึ้นพยายามทำเสียงปกติไม่ให้สั่นเวลาคุยกับหญิงร่างเล็กตรงหน้ากำลังก้มลงไปมองเตาอบที่มีเค้กก้อนเล็กอยู่ในนั้น
ทำเค้ก?
เพื่อ?
“ป้าได้ยินมาว่าคนที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่
หน้าตาดีมาก ดูภูมิฐาน ป้าเลยอยากต้อนรับเขาน่ะ เครเดนซ์ช่วยเอาเค้กไปให้เขาให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ?”
คุ้นๆ
อะไรไหม? คนที่ย้ายมาใหม่? หน้าตาดีมาก? ดูภูมิฐาน? อาจจะใช่และไม่ และขอว่าให้ไม่ใช่
ไม่อยากตบกับป้าตัวเองเพราะแย่งผู้ชาย
“บอกคุณเกรฟส์ด้วยนะว่าป้าฝากมาให้”
ไม่ทันจะท้วงอะไร
เค้กที่อบเสร็จใหม่ๆที่อยู่บนถาดมีฝาครอบก็ถูกมาวางบนมือทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มเป็นที่เรียบร้อย
เอาจริงดิ
สภาพนี้เนี่ยนะ??
เครเดนซ์เลิกคิ้วมองหน้าผู้เป็นป้าที่ทำหน้าลุ้นว่าเขาจะเดินออกไปเมื่อไหร่
จนเด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน
ก่อนจะประคับประคองเค้กอุ่นๆไปหน้าประตูที่มีหญิงสาวผมสั้นเดินไปรอเปิดให้อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
ก่อนจะเสียงแหลมๆจะพูดบอกเขาว่าบ้านหลังที่ว่าอยู่ถัดจากบ้านเราไปสองสามหลัง
อ่า
ใช่
หลังที่เขาเจอผู้ชายตัวสูงคิ้วเข้มคนนั้นยืนอยู่ด้านหน้า
และก็เดาไม่ผิดหรอก
หลังจากที่เครเดนซ์ยืนถือถาดเค้กกดออดรออยู่สักพัก
ชายร่างสูงดูมีอายุก็เดินออกจากบ้านเดินตรงมาทางรั้วที่เขายืนอยู่ก่อนเปิดประตู
แล้วมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนย้ายสายตามามองหน้าเด็กหนุ่มอีกครั้ง
เกร็งไปหมดแล้วครับ!
“คือ..คุณเกรฟส์ใช่ไหมครับ?
ผมกับป้าอยู่บ้านถัดไปสองสามหลัง เห็นคุณมาใหม่ป้าเลยทำเค้กมาต้อนรับนะครับ”
เด็กหนุ่มเม้มปากตัวเองแน่นพลางเหลือบมองคนมีอายุที่มีสภาพเหมือนพึ่งตื่นนอนด้วยผมยุ่งๆกับเสื้อเชิ้ตตัวเดียวกับเมื่อวาน
เขาอาจจะเหนื่อยมากจนไม่ได้อาบน้ำ
“อืม
ขอบคุณนะ เธอ..”
ร่างสูงชะโงกหน้าออกมาจากรั้วแล้วหันไปมองบ้านหลังที่ว่าก่อนหันกลับมามองเด็กหนุ่มตัวสูงทำให้หน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่เกินสองคืบ
เครเดนซ์เมื่อเห็นว่าหน้าของอีกคนใกล้ตนมากแค่ไหนก็หดคอคางชิดอกอย่างช่วยไม่ได้
“ผมเครเดนซ์ครับ
ขอตัวนะครับ” และด้วยความเขินหรืออะไรซักอย่าง
เด็กหนุ่มก็รีบร้อนยัดถาดเค้กกับมือชายหนุ่มก่อนก้าวออกจากตรงนั้น ทว่า
มือหนาข้างที่ว่างกับคว้าแขนบางนั่นไว้ก่อน
“จะรีบไปไหน?
ฉันกินไม่หมดหรอกนะ มากินด้วยกันก่อน”
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงทุ้มพร้อมกับออกแรงบีบแขนเล็กเบาๆ
“ไม่ได้ครับ
ผมมีงานต้องทำ ขอตัวนะครับ” เหมือนโดนไฟช็อต
เมื่อถูกเพอร์ซิวัลจับแขนแบบนั้นทำให้ความร้อนในหัวใจแล่นขึ้นไปทั่วร่าง ทั้งหน้า
ทั้งหู แดงจนคนที่จับแขนเขาปล่อยออกในที่สุด
“วันนี้วันหยุดนี้
เธออายุเท่าไหร่ ทำงานอะไร?”
เสียงทุ้มหยุดขายาวๆให้เด็กหนุ่มต้องหันไปมองเจ้าของเสียงที่กอดอกพิงรั้วมองเขาอยู่
แววตาดูไม่สบอารมณ์ ทำให้เครเดนซ์หวาดในใจอยู่ลึกๆ นี่เขาทำอะไรผิดรึเปล่าเนี่ย? “อย่าให้ต้องถามซ้ำ
เครเดนซ์”
เด็กหนุ่มตัวสูงขนลุกซู่ทันทีที่คนมีอายุมากกว่าตรงหน้าเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเย็นๆ
ไม่ดี
ไม่ดีแน่ๆ
“ก็แค่งานในคลินิกเล็กๆน้อยๆน่ะครับ”
เครเดนซ์ก้มหน้าก้มตาหลบสายตาคมของอีกคนที่มองมา ด้วยความเกร็งมือขาวๆกำกางเกงขายาวๆของชุดนอนแน่นจนสั่นและขึ้นสี
“อายุถึงแล้วเหรอ?”
เสียงทุ้มว่าอีกก่อนที่เสียงเท้าจะดังเข้ามาใกล้ๆจนเครเดนซ์ต้องเงยหน้าขึ้นมองก่อนก้มลงไปมองเท้าตัวเองดังเดิมเมื่อเห็นสายตาคมๆจ้องมาที่ตัว
ใกล้เกินไปอีกแล้ว
“ครับ..ผมสิบแปดแล้ว
กำลังจะสิบเก้าแล้วด้วย ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ”
เครเดนซ์หลับตาแน่นเมื่อพูดออกไปก่อนจะค่อยๆลืมตามองอีกคนที่เลิกคิ้วให้กับคำตอบของเด็กหนุ่ม
ก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงจะหัวเราะในลำคอเบาๆแล้วตอบ
“เธอคิดว่าฉันจะห่วงคนที่พึ่งเจอกันไม่กี่ครั้งอยากเธอเหรอ?”
หลังจากนั้นเครเดนซ์ก็ยิ้มให้เพอร์ซิวัลแล้วพูดว่า
นั่นสินะครับ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไป
ให้ทายว่าชายหนุ่มที่มองตามหลังค่อมๆนั่นจะรู้สึกยังไง?
ก็แทบจะเอาหัวโขกกับรั้วบ้านตัวเองแรงๆซักที ดันเผลอพูดไปแบบนั้นเด็กมันจะรู้สึกยังไง
ไม่เกลียดไปเลย ก็แค่น้อยใจ ง้อแปบเดียวก็หาย หวังให้เป็นอย่างหลังละกัน แล้วต่อไปที่คิดเขาควรจะคิดคือ
เขาจะง้อร่างโปร่งนั่นยังไง
ก็น้อยใจแหละ
แต่เขาก็พูดถูกไง
คุณเกรฟส์เจอหน้าเราไม่กี่ครั้งจะมารู้สึกเท่าเราที่เจอหน้าเขาทุกวันได้ยังไงกันล่ะ
ระหว่างการก้าวเดินเข้าบ้าน
เครเดนซ์ก็คิดไปเรื่อยว่าตัวเองไม่เป็นไรหรอกที่โดนพูดแบบนั้น
เพราะมันถูกของเพอร์ซิวัล ทั้งที่หน้าตัวเองตอนนี้ใครเห็นก็ต้องคิดว่าอกหักมาแน่ๆ
เพียงแต่เจ้าตัวดันไม่รู้ตัว เดินเข้าบ้านไปด้วยสีหน้าบึ้งตึงกับไหล่ที่ค่อมลงหนักกว่าเดิม
แมรี่ที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่เมื่อเห็นเครเดนซ์
ก็รีบทิ้งอุปกรณ์ทำความสะอาดลงแล้ววิ่งมาหาเด็กหนุ่มที่กำลังถอดรองเท้าหน้าประตูอยู่ก่อนจะถามเรื่องเพื่อนบ้านคนใหม่
“เขาก็หล่อดีครับ”
นั่นคือคำตอบเดียวที่ร่างโปร่งบอกไปก่อนที่เขาจะพาร่างบางๆของตัวเองเดินขึ้นห้องโดยไม่สนใจป้าที่ไม่ได้สังเกตความผิดปกติของเขา
เฮ้อ
เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาแรงๆเมื่อขึ้นมาถึงห้อง
ทิ้งตัวลงนอนพลางนึกถึงใบหน้าคมที่มองมา
“ผมอยากบอกคุณ
ว่าผมเสียใจ แต่ผมคงไม่มีสิทธ์”
ร่างโปร่งเดินลงจากบ้านอีกครั้งหลังจากขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะไปคลีนิกของนิวท์
ด้วยเสื้อยืดทับด้วยฮู้ดแขนยาวกับกางเกงยีนส์สีซีดและรองเท้าผ้าใบคู่เดิม
แต่ก่อนจะออกไปร่างโปร่งต้องชะงักอยู่หน้าประตูบ้านเพราะคนที่คุยอยู่กับป้าแมรี่คือชายร่างสูงคิ้วเข้มในชุดไปรเวทท่าทางสบายๆที่เขาคุยอยู่กับป้า
ใช่ คนเดียวกันกับที่ร่างโปร่งแอบมองทุกวันนั่นแหละ และนั่นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งที่ไม่มีสิทธ์..
“อ้าว
เครเดนซ์มาพอดีเลย เด็กคนนี้นี่ขยันตลอดเลยล่ะค่ะ ฉันบอกว่าไม่ต้องทำก็ไม่เชื่อ”
เหรอ!? เครเดนซ์อยากจะตะโกนถามไปแบบนั้นซะจริงๆ
แต่ติดอยู่ที่ว่านั่นคือป้าแท้ๆของเขา และเด็กหนุ่มไม่ชอบหักหน้าใคร
เลยได้แต่ยิ้มรับเสียงแหลมนั่นไว้โดยไม่มองหน้าอีกคนที่กำลังจ้องเขาราวกับจะเลือดกินเนื้ออยู่
“ผมขอตัวนะครับ”
แต่ก่อนที่ร่างบางจะแทรกกลางระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองมือกร้านๆของเพอร์ซิวัลก็คว้าแขนเขาไว้ก่อนจะลากไปที่รถเก๋งคันหรูที่คุ้นตา
“ผมด้วย
ขอตัวนะคุณลู”
แล้วไงต่อ..ร่างโปร่งก็ถูกยัดเข้ามาในตัวรถอย่างมึนๆน่ะสิ
โดยที่สายตากลมก็มองตามร่างสูงที่อ้อมมานั่งตรงฝั่งคนขับโดยไม่มีคำอธิบายอะไรทั้งนั้น
“คลินิกที่ว่านั่นอยู่ตรงไหน”
ขับออกมาได้สักพัก
คนตัวสูงก็เอ่ยทำรายความเงียบก่อนจะเหลือบมองเด็กหนุ่มที่ดูยังมึนๆงงๆอยู่ที่จู่ๆก็โดนลากขึ้นรถมา
ทำเอาเพอร์ซิวัลอดขำไม่ได้แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเห็นเครเดนซ์หันมามองหน้าเขา
“คุณ..จะไปส่งผม?”
เสียงหวานแหบเอ่ยถามย้อนกลับไปให้คนที่กำลังขับรถ
สายตาคมเหลือบมองหน้าหวานแวบนึงก่อนหันไปมองทางด้านหน้าต่อ
“คิดว่ายังไงล่ะ”
“ก็คิดว่าใช่”
“ตามนั้น
ตกลงที่ไหน?”
ดวงหน้าหวานหันไปมองรูปหน้าของคนมีอายุมากกว่าที่มีไรหนวดและริ้วรอยของกาลเวลาตามใบหน้า
แม้จะเป็นแบบนั้นคนที่ตั้งใจขับรถก็ดูดีเสมอ เครเดนซ์ตัดสินใจบอกทางไป จนกระทั่ง เพอร์ซิวัลจอดรถอยู่หน้าคลินิก
“เออ..ขอบคุณนะครับ”
“ยินดี”
เด็กหนุ่มโค้งให้ร่างสูงเป็นการขอบคุณอีกครั้ง
ขายาวกำลังก้าวลงจากรถคันงามแต่ต้องชะงักเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยคำคำนึง
“ขอโทษ”
-To
be continue-
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น