วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

[Fic] I just wanna love you #Gradence #5

Title : I just wanna love you
Chapter : 5
Pairing : Percival x credence


Warning : ฟิคเรื่องนี้ไม่มีพล็อต ไม่มีเนื้อเรื่องตายตัว ถ้าสับสนมึนงงตรงไหน บอกเรานะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะ




………………..

I just wanna love you





หลังจากเมื่อวานที่เพรอ์ซิวัลทำให้เครเดนซ์ร้องไห้โดยไม่รู้สาเหตุ วันนี้เขาก็เลยมาทำงานด้วยอารมณ์ขุ่นมัวแบบที่เขาไม่เคยเป็นเพราะปกติเพอร์ซิวัลคือคนนึงที่หน้าตายจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แต่ตอนนี้ ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขามากกว่าเดิมเพราะรู้สึกถึงบรรยากาศขมุกขมัวรอบตัวชายหนุ่มอีกทั้งคิ้วหนาคู่นั้นที่ขมวดเข้าหากันทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ในฐานะนายหัวของทุกคนในบริษัทน่ากลัวขึ้นไปอีก


          ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเน็คไทกำลังประสานมือลงบนโต๊ะแล้วเท้าคางพลางขมวดคิ้วยุ่งจนเลขาสาวที่เข้ามาเพื่อแจ้งตารางงานยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงหน้าเพอร์ซิวัล จนผู้บริหารหนุ่มรำคาญเงยหน้าขึ้นเหลือบตามองหญิงสาวก่อนจะลุกขึ้นคว้าเสื้อสูทที่แขวนอยู่บนที่แขวนเสื้อข้างโต๊ะทำงานมาใส่
         

“ยกเลิกนัดทั้งหมด เอกสารผมเซ็นให้บางส่วนแล้ว ส่วนที่เหลือผมกำลังพิจารณา ถ้ามีอะไรเพิ่มก็กองไว้บนโต๊ะนั่นแหละ เดี๋ยวผมกลับมาเคลียให้” ร่างสูงร่ายยาวก่อนเดินไปตบบ่าเลขาสาวสวยและเดินออกไป ทิ้งหญิงสาวยืนถือเอกสารงงหน้าโต๊ะทำงานของเพอร์ซิวัล


จุดมุ่งหมายที่ทำให้เพอร์ซิวัลเลิกงานก่อนเวลาคือการง้อเด็กหนุ่มที่เป็นสาเหตุให้อารมณ์ของเขาขุ่นมัว

ก็เล่นร้องไห้ออกมาตอนที่บอกรักเขา หลังจากที่เพอร์ซิวัลจูบเด็กหนุ่มกลางร้านอาหารแบบนั้นจะให้อารมณ์ดีได้ยังไงกัน  แถมเขายังไม่รู้ว่าทำไมเครเดนซ์ถึงร้องไห้ออกมาแบบนั้น ยิ่งทำให้อารมณ์เสียกว่าเดิม


อารมณ์เสียที่ทำให้เด็กหนุ่มร่างโปร่งคนนั้นเสียน้ำตา


และอารมณ์เสียที่ไม่รู้เหตุผลของน้ำตานั่น


เครเดนซ์เธอโกรธฉันเรื่องอะไรกันแน่?


.
.
.
เด็กหนุ่มเดินไปตามทางเรื่อยๆหลังจากออกจากบ้านมาเพื่อจะไปโรงเรียนในเวลาเที่ยงตรงเนื่องจากตนเรียนบ่าย แต่สองเท้ากลับพาเขาไปที่ที่นึงแทน

.
.
“เรามาทำอะไรที่นี่เนี่ย?”

เครเดนซ์เงยหน้ามองตึกสูงที่เขามักแอบมองจากซอกตึกฝั่งตรงข้ามและเฝ้ารอใครบางคนออกมาแล้วขึ้นรถ แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มยืนอยู่ด้านหน้ามันไม่ใช่ในซอกหลืบนั่น มันสูงใหญ่กว่าตอนที่เขามองจากที่ไกลๆมากนัก


เด็กหนุ่มที่อยู่ในเสื้อยืดซ้อนทับด้วยโค้ทสีน้ำตาลสะพายเป้ยืนเงยหน้ามองตึกสูงที่เจ้าของคือคนเดียวกันกับที่ขโมยจูบแรกของเขาไปเมื่อวาน


เพอร์ซิวัล เกรฟส์


เครเดนซ์รู้ รู้มาโดยตลอดว่าเพอร์ซิวัลเป็นใคร เขาเป็นผู้บริหารบริษัทที่ผลิตน้ำหอมชื่อดังที่สืบต่อมาจากแม่ของเขา เป็นเหตุผลว่าทำไม เด็กหนุ่มถึงไม่เคยกล้าเข้าไปทักหรือทำความรู้จักก่อนหน้าที่เพอร์ซิวัลจะย้ายมาอยู่ใกล้ๆ


และทำได้แค่มองอยู่ห่างๆในที่แคบ


เสียงถอนหายใจดังขึ้นพร้อมกับที่ดวงหน้าขาวก้มลงมองรองเท้าใบเก่าๆของตัวเอง พลางคิดถึงจูบเมื่อวาน ก่อนที่จะยกมือขึ้นกุมหน้าอกที่อวัยวะภายในเต้นรัวราวกับจะเด้งออกมาเพราะสิ่งที่คิด แต่ความคิดที่คิดว่าเพอร์ซิวัลจูบเขาเพียงเพราะบรรยากาศพาไปก็พาลทำให้อารมณ์ของเด็กหนุ่มตัดฉับ เพราะคำขอโทษของชายหนุ่มวนเข้ามาในหัว


ที่เขาจูบแกก็คงเพราะบรรยากาศในภัตตาคารนั่นต่างหากไม่ใช่เพราะเขาชอบแกซะหน่อย เครเดนซ์..


เครเดนซ์คิด หารู้ไม่ว่าสิ่งที่คิดมันผิดไป



สองเท้าในรองเท้าหนังขัดมันเงาก้าวเดินออกจากตึกสูงที่ตัวเองเป็นเจ้าของโดยมีเสียงบอกลาโดยพนักงานผู้ภักดีไล่หลังก่อนจะหยุดลงเมื่อเห็นร่างโปร่งที่เขาไม่คิดว่าเวลาแบบนี้เด็กหนุ่มจะยืนอยู่ด้านหน้าบริษัทของเขาได้กำลังก้มหน้ามองรองผ้าใบเก่าของตัวเองอยู่


เครเดนซ์!!


ชายหนุ่มในชุดสูทตะโกนกู่ก้องในใจด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยก่อนก้าวฉับๆไปยืนอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม
เมื่อร่างโปร่งรู้สึกตัวว่ามีใครยืนอยู่ตรงหน้าก็เงยหน้าขึ้นและชะงักเมื่อรู้ว่าอีกคนเป็นใคร


“คุณเกรฟส์...!!!


เครเดนซ์ร้องเสียงหลงทันทีที่เพอร์ซิวัลคว้าตัวเขาขึ้นอุ้มพาดบ่า ก่อนที่ร่างสูงจะพาเขาไปยัดที่รถคันหรู


แล้วเครเดนซ์ก็เป็นตุ๊กตาหน้ารถให้เพอร์ซิวัลอีกครั้ง


เดจาวูชัดๆ!


“ไง”
เพอร์ซิวัลเป็นคนเริ่มบทสนทนาก่อน


“ครับ? เออ..ดีครับ”
เครเดนซ์ตอบกลับก่อนที่ทั้งรถจะเงียบอีกครั้ง



อะไรกันเนี่ย!!!???
เด็กหนุ่มคิดในใจก่อนจะเปิดปากแต่ก็ต้องหยุดเมื่ออีกคนพูดแทรกขึ้นมาก่อน



“เธออยากรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไปรับเธอเมื่อวาน ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้”


“...”


“ไม่มีเหตุผลหรอก แค่อยากทำ เพราะเธอคือคนสำคัญ”


“....”
เครเดนซ์ก้มหน้าไม่วายคิดว่าทำไมเพอร์ซิวัลถึงคิดว่าเขาเป็นคนสำคัญทั้งที่พึ่งเจอเขาไม่กี่ครั้ง และคำตอบต่อมาทำให้ดวงหน้าขาวหันขวับไปมองผู้ใหญ่ข้างตัว


“คิดว่าเธอเป็นฝ่ายมองคนเดียวเหรอ รู้อะไรไหม ฉันก็แอบมองเธอมาตลอดเหมือนกัน”


“คุณ...”


“รู้ตลอดเลย”
เพอร์ซิวัลหันมายิ้มให้เด็กหนุ่มที่อ้าปากค้างหน้าแดงมองเขาแวบนึงก่อนหันกลับไปมองถนนแล้วพูดต่อ


“และรู้อะไรไหม? ฉันก็รักเธอเหมือนกัน”


“ทำไม...”


“แค่อยากจะรักไม่ได้เหรอ?”


เพอร์ซิวัลหันมามองที่เครเดนซ์อีกครั้ง แต่ครานี้เขาดับเครื่องยนต์แล้วผละมือออกจากเกียร์มากุมมือขาวของร่างโปร่งที่มองเขาผ่านม่านน้ำตาที่เอ่อในดวงตากลม


“ฉันแค่อยากจะรักเธอ ได้ไหม?”


         มือกร้านถูกยกขึ้นมาเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มใส ก่อนที่ใบหน้าของชายหนุ่มจะขยับเข้าใกล้ดวงหน้าหวานและจ้องเหมือนกำลังลุ้นคำตอบ
         

          “ผมห้ามคุณไม่ให้รักผมได้เหรอครับ”

         
          “...”

          เป็นฝ่ายเพอร์ซิวัลที่เงียบขึ้นมาบ้าง กระทั่งเครเดนซ์แย้มยิ้มหวานให้อีกคนก่อนพูดประโยคที่ทำเอาอีกคนที่แทบไม่เคยยิ้มกว้าง ได้ยิ้มกว้างออกมาเท่าที่จะกว้างได้


          “ผมห้ามคุณไม่ได้ คุณก็ห้ามผมไม่ได้ ฉะนั้น ผมก็จะบอกว่า ผมรักคุณ”


          เครเดนซ์ยิ้ม ยิ้มพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นไหลอาบแก้ม ก่อนจะถูกดึงไปอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน


          “ฉันก็รักเธอ”


          “ทีนี้ เธอจะบอกฉันไหมว่าทำไมเธอถึงร้องไห้วิ่งหนีเข้าบ้านไปเมื่อวาน?”
          เพอร์ซิวัลผละออกแล้วจ้องหน้าของอีกคนคาดคั้นเอาคำตอบที่เขานอนคิดทั้งคืนไม่ออก


          “ก็..คุณขอโทษผม ผมคิดว่าคุณเผลอทำไปเพราะไม่ตั้งใจโดยที่ไม่รู้สึกอะไรกับผม..ก็เลย...”
          เด็กหนุ่มก้มหน้าหลบสายตาคมของผู้ใหญ่ตรงพร้อมกับแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อ เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากผู้ใหญ่อีกคนได้ ก่อนที่มือหนาจะถูกยกขึ้นมาไว้บนหัวทุยของเครเดนซ์แล้วขยี้เบาๆ


         
“ฉันรู้สึกกับเธอนะ รู้สึกมากด้วย แต่ที่ขอโทษเพราะฉันไม่อยากให้เธอมองว่าฉันฉวยโอกาส แล้วมองฉันเป็นคนไม่ดี เข้าใจฉันไหม?”


เพอร์ซิวัลหันไปถาม ก่อนที่เด็กหนุ่มจะผงกหัวขึ้นลงเบาๆเป็นคำตอบ หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ละมืออกจากหัวทุยๆของเครเดนซ์ แล้วหันไปสนใจถนนต่อ




.
.
แต่ก็นั่นแหละ ประโยคที่ว่า เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ยังใช้ได้อยู่


เมื่อเพอร์ซิวัลพาเครเดนซ์กลับมาที่บ้านหลังจากที่ทั้งสองตกลงคบกัน เพอร์ซิวัลก็บังคับเด็กหนุ่มโดดการทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนแล้วพาเด็กหนุ่มเที่ยวเล่นจนลืมดูเวลาแล้วกลับดึกกว่าทุกวันจนแมรี่มารออยู่ที่หน้าบ้านด้วยสีหน้าที่โกรธจนเครเดนซ์กลัว เลยเดินลงจากรถก้าวไปหาแมรี่ช้าๆแล้วครางเรียกชื่อผู้เป็นป้าเบาๆ


“ป้าแมรี่..”


“แกไปไหนมา ทำไมถึงกลับดึกกับผู้ชายคนนี้!?”

หญิงสาวผมสั้นในชุดกระโปรงยาวมีเสื้อไหมพรมคลุมไหล่กระชากแขนบางของเด็กหนุ่มแรงจนร่างโปร่งเซถลาไปชนรั้ว ก่อนที่มือเรียวผอมของแมรี่จะตรงเข้ามาจิกกลุ่มผมนุ่มของเครเดนซ์เหวี่ยงออกจากรั้ว


เพอร์ซิวัลที่พึ่งตั้งสติได้ มองเหตุการณ์ตรงหน้าก่อนจะเข้าชาร์ทไปที่ตัวแมรี่แล้วจับตัวเธอออกจากร่างโปร่ง เมื่อร่างของหญิงล้มเครเดนซ์ก็เข้ามาแทรกตรงกลางระหว่างทั้งสอง


“พอครับ อย่าทำเธอ!
เครเดนซ์ผลักตัวเพอร์ซิวัลออกห่างจากร่างหญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้น ก่อนที่ร่างโปร่งจะเข้าไปพยุงร่างเล็กให้ลุกขึ้นช้าๆ


“ไม่เป็นอะไรนะครับคุณป้า”


“ป้าอยากคุยกับแก”


“ครับ”

เครเดนซ์พยุงร่างเล็กของผู้เป็นป้าอย่างเบาๆมือ ก่อนจะไปมองเพอร์ซิวัลที่ยืนนิ่งมองทั้งคู่ด้วยสายตาที่เป็นห่วงเห็นได้ชัด เด็กหนุ่มทำปากพูดให้อีกคนกลับไปก่อนแบบไม่มีเสียง แล้วพาแมรี่เดินเข้าบ้านไป ทิ้งผู้ใหญ่อีกคนมองตามห่างๆ



เมื่อเข้ามาในตัวบ้าน เครเดนซ์ก็พาหญิงสาวไปนั่งที่โซฟากลางบ้านก่อนจะคุกเข่าตรงหน้าเธอแล้วก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่ประสานอยู่บนตัก

“ว่าไง ไปทำอะไรมา โรงเรียนก็ไม่ได้ไป งานก็ไม่ได้ทำ แถมกลับดึก รู้ไหมว่าคนที่บ้านเป็นห่วง” เสียงแหลมอ่อนลงเมื่อเห็นท่าทางของคนเป็นหลาน ก่อนจะยกมือวางบนหัวทุย เครเดนซ์เงยหน้าขึ้นอย่างแปลกใจ เด็กหนุ่มไม่เคยได้ยินคำว่าเป็นห่วงและไม่เคยได้รับการอ่อนโยนจากป้าเลย ดวงตากลมมองหญิงสาวตรงหน้า จดจ้องไปที่ดวงตาสีหม่นราวกับกำลังมองว่าสิ่งที่พูดคือความจริงไหม และเด็กหนุ่มก็เข้าใจว่าคนตรงหน้าห่วงเขาจริงๆ


“ป้าเป็นห่วงผมเหรอ?”
เครเดนซ์เอ่ยถาม นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มสั่นไหวเล็กน้อย แล้วมือเรียวก็ฟาดมาที่ไหล่เขาอย่างแรงจนร่างโปร่งร้องโอ๊ย

“เด็กบ้า! ถ้าฉันไม่ห่วงแกแล้วฉันจะห่วงใคร!? แกเป็นหลานฉันนะ!


          แมรี่ตะคอกเสียงดัง ก่อนจะขมวดคิ้ววุ่น พลางถอนหายใจแล้วว่าต่อ
         

          “ที่ผ่านมาฉันอาจจะทำตัวไม่ดี แต่ก็ใช่ว่าฉันเกลียดแกซะหน่อย”
แมรี่ยังพูดต่อ เครเดนซ์ก็ได้แต่ก้มหน้ารับฟัง

“ฉันรักแก รักเหมือนลูกคนหนึ่ง แล้วที่ฉันไม่แสดงออกและไม่ค่อยดูแลแกก็เพราะฉันแสดงออกไม่เป็น แกน่าจะรู้ แล้วที่ฉันไม่จ่ายค่าใช้จ่ายอะไรของแกเลยก็เพราะฉันอยากให้ดูแลตัวเอง ฉันไม่อยากโอ๋แก แกอาจจะไม่เข้าใจ แล้วฉันไม่ว่าหรอกถ้าแกจะเกลียดฉันอ่ะนะ แล้วก็..ให้ตายสิ เยอะชะมัด ฉันไม่รู้จะอธิบายอะไรต่อ แต่ก็นั่นแหละ อยากให้รู้ว่าฉันก็รักแก เป็นห่วง รู้ไว้ และก็ขอโทษที่ทำรุนแรงไป ฉันเผลอโกรธมากไปหน่อย”


เสียงแหลมร่ายยาวเรื่อยๆ เครเดนซ์ก็นั่งฟังพลางมองมือบางที่บีบกันไปมาของแมรี่ราวกับกำลังกังวลในสิ่งที่พูด ดวงหน้าขาวเงยขึ้นมองหน้าพูดเป็นป้าที่เบือนหนีหันไปมองอย่างอื่น


“ป้า เหมือนกำลังเด็กสาวกำลังสารภาพรักผู้ชายที่ชอบเลย”


เครเดนซ์พูดติดตลกพลางขำเบาๆ ก่อนที่จะร้องเสียงหลงเพราะเจอฝ่ามือพิฆาตของผู้ป้าฟาดลงที่ไหล่บางอีกครั้ง


“เพื่อนเล่นเหรอ? ทีนี้ตอบมาว่าทำไมไม่ไปเรียน ไม่ไปทำงาน แถมยังกลับดึกพร้อมผู้ชายคนนั้นอีก” แมรี่กอดอกแล้วหรี่ตาจ้องคนหลาน


“ไปตามหาหัวใจครับ แล้วก็ได้มาแล้ว”
ฟันขาวกัดเม้มปากสีซีดของตัวเองเบาๆพร้อมกับดวงตากลมเหลือบมองไปที่ผู้เป็นป้า


“หมายความว่าไง? เล่ามา พึ่งเจอกันไม่กี่วันรักกันแล้ว? ยังไง??”
เมื่อโดนคาดคั้น เครเดนซ์ก็ต้องจำใจเล่าตั้งแต่เริ่มตอนที่เขาเจอเพอร์ซิวัลครั้งแรก...



-To be continue-



Note : สั้นไหม สั้นเนอะ เหมือนจะจบ แต่ไม่จบ ไม่จบง่ายๆหรอก อยากยื้อเยื้อต่อไปเรื่อยๆ (ฮา) อย่าพึ่งเบื่อกันนะ รอติดตามกันต่อไปเนอะ คำตก คำผิดตรงไหน บอกเรานะ มึนงงอะไร ก็บอกนะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น