วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

[Fic] I just wanna love you : #Gredence #1



Title : I just wanna love you
Chapter : 1
Pairing : Percival x Credence  







I just wanna love you



จะเป็นยังไง ถ้าได้เขามาครอบครอง


จะเป็นยังไง ถ้าเขาเอื้อนเอ่ยคำหวาน


จะเป็นยังไง ถ้าเขายืนอยู่ตรงหน้าแล้วมองมาด้วยใจรัก


คำตอบง่ายๆ สำหรับคำถามนี้มีเพียง ความว่างเปล่า


เพราะเราไม่ได้ครอบครองเขา


เขาไม่เคยเอ่ยคำพูดนั้น


และ เขาไม่เคยยืนอยู่ตรงหน้า


ไม่แม้แต่มองมา เขาอาจไม่เคยรู้ว่ามีคนคนนึงแอบมองเขาจากที่แคบๆตรงนี้


ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เครเดนซ์ แบร์โบน คนนี้มีตัวตน



          เครเดนซ์ แบร์โบน คือเด็กหนุ่มอายุสิบแปดปี ที่หน้าตาดี มีทรงผมกะลาครอบและบุคลิกเก้งก้างเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งอาจจะไม่ดีเท่าไหร่สำหรับความคิดเด็กหนุ่ม และมันอาจไม่ดีในสายตาของคนๆนั้นที่เขามองอยู่ด้วย
          ทุกวัน ในเวลาพลบค่ำเป็นช่วงที่เด็กหนุ่มเลิกงานเสริมหลังเลิกเรียน เป็นเวลาที่เครเดนซ์จะมาหลบอยู่ในซอกแคบๆของตึกสูงคู่ขนานกัน เพื่อมาเฝ้ามองใครบางคนที่น่าจะพึ่งเลิกงานเวลานี้เหมือนกันออกมาจากตึกสูงขนาดใหญ่ด้วยชุดสูทเรียบหรูก่อนขึ้นรถ
เขาคนนั้นที่ว่ามีรูปร่างสูงใหญ่ โครงหน้าได้รูป คิ้วหนาโค้งตามดวงตาเรียวคม จมูกเป็นสันตรงปลายเป็นทรงแหลมมนสวย ริมฝีปากบางหยักน่าหลงใหลเสมอเมื่อเห็น และตอนนี้เครเดนซ์กำลังมองเขาด้วยความหลงใหลก่อนเขาจะลับสายตา


          “เฮ้อ..”
          เครเดนซ์ถอนหายใจเบาๆก่อนจะหันหลังพิงกำแพงหลังจากมองรถคันงามวิ่งออกไปจนลับตา ดวงตากลมหลับลงช้าๆพลางนึกว่าทำไมตัวเองต้องมาทำอะไรแบบนี้เพราะผู้ชายที่ไม่รู้จักด้วยนะ เพราะอะไร ทั้งที่แค่เดินผ่านสบสายตากันเพียงไม่กี่วินาทีกลับทำให้หัวใจเต้นเร็วจนคิดว่าต้องตายแน่ๆถ้าอยู่ใกล้เขา ทั้งที่คิดว่าอันตรายทำไมยังแอบมองเขาแบบนี้ก็ไม่รู้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้ว่าตัวเองไม่ปกติ จนต้องหายใจออกมาซ้ำๆ


          นานแค่ไหนแล้ว?


          สองหรือสามอาทิตย์นะ ที่แอบมองเขาจากซอกตึกแคบๆเหม็นๆตรงนี้?

         
          อาจจะไม่สำคัญ..


          แค่มองแล้วมีความสุขก็พอแล้วนี่


          เด็กหนุ่มก้มหน้ายิ้มขำให้ตัวเอง น่าขัน..ทั้งที่ไม่รู้จักกันแต่ก็ถูกขโมยใจไปซะแล้ว


          แกมันใจง่าย เครเดนซ์..



          ขายาวของเด็กหนุ่มก้าวเดินไปตามทางกลับบ้านอย่างเชื่องช้า ก้มมองเท้าของตนก้าวไปข้างหน้าโดยไม่สนใจรอบข้าง ไม่สนใจว่าตัวเองจะเดินไปชนหลังแกร่งของใครบางคนเขา
          “อ๊ะ? ขอโทษครับ” เด็กหนุ่มเงยหน้าละสายตาออกจากรองเท้าผ้าใบเน่าๆของตนก่อนเอ่ยขอโทษคนตรงหน้าที่มองเขาด้วยความหงุดหงิดฉายชัดอยู่บนใบหน้า คนที่ดูมีอายุมากกว่าพยักหน้าให้เบาๆโดยไม่ว่าอะไร ปกติถ้าเครเดนซ์อยู่ในสถานการณ์แบบนี้เด็กหนุ่มคงจะเดินหนีให้เร็วที่สุด แต่ไม่ใช่ตอนนี้เพราะคนตรงหน้าคือคนที่เครเดนซ์เฝ้ามองมาตลอดสามอาทิตย์ที่ผ่านมา  


เด็กหนุ่มชะโงกไปมองด้านหลังอีกคนพบว่าบ้านของตนอยู่ถัดไปจากตรงที่ยืนอยู่ไปไม่กี่หลัง แล้วเขามาทำอะไรตรงนี้ล่ะ?

         
“มีอะไรรึเปล่า?”
เสียงทุ้มของคนตรงหน้าดังขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มผอมสูงดูลุกลี้ลุกลนแปลกๆ


“เปล่าครับ ไม่มีอะไร ขอตัวนะครับ” เด็กหนุ่มได้แต่กลืนความสงสัยลงคอพร้อมกับความร้อนที่เห่อขึ้นบนใบหน้า ก่อนเบี่ยงตัวเดินอ้อมร่างสูงไป ทิ้งคนมีอายุมองตามเงียบๆ







จะเป็นยังไง ถ้าถูกสายตากลมจ้องมองจากที่ลับตาอย่างซอกตึกแคบๆนั้น


จะเป็นยังไง ถ้าเด็กตัวสูงที่เคยลอบมองมาตลอดมาอยู่ตรงหน้า


จะเป็นยังไง ถ้าเด็กคนนั้นเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงหวานหู


และจะเป็นยังไง ถ้าได้ครอบครองริมฝีปากสีซีดนั่น


คำตอบของคำถาม มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นรัวเมื่อเห็นหน้าหวานของเด็กหนุ่มทรงผมกะลาครอบนั่นใกล้ๆ




ครั้งแรกที่ เพอร์ซิวัล เกรฟส์ รู้สึกว่ามีคนแอบมองคือไม่กี่อาทิตย์ก่อน ทุกครั้งที่เดินออกมาจากบริษัทของตัวเองจะรู้สึกว่ามีสายตาคู่นึงจ้องมองเขาตลอดจนเขาขึ้นรถ ถามว่ารู้ได้ไง? ทำไมจะไม่รู้ก็โดนจ้องขนาดนั้น ยากมากที่จะไม่รู้ตัว ยิ่งเป็นสายตาน่ารักๆแบบนั้น ถ้าเขาไม่รู้คงเป็นผู้บริหารไม่ได้ แต่ที่เพอร์ซิวัลไม่รู้คือทำไมเด็กนั่นไม่เข้าหาตัวเขาซักที แอบมองอยู่ทำไมกัน? ไม่เหนื่อยบ้างเหรอที่ได้แต่แอบ ไม่อึดอัดรึไง? ทนได้เหรอที่ได้แค่มอง? คำตอบก็อาจจะใช่ เพราะเด็กนั่นก็ยังแอบมองเขาตลอดหลายอาทิตย์ เป็นเขาเองเนี่ยแหละที่ทนไม่ได้ ต้องให้คนไปสืบที่อยู่ของเด็กหนุ่มมาแล้วเนียนย้ายบ้านมาอยู่ใกล้ๆ


และวันนี้คือวันที่เพอร์ซิวัลต้องย้ายเข้าบ้านหลังใหม่ แต่แทนที่เขาจะได้บ้านหลังข้างบ้านเด็กหนุ่ม กลับได้ที่ถัดมาอีกสองสามหลังเป็นเหตุที่เขาเผลอทำหน้าหงุดหงิดใส่เด็กหนุ่มที่เดินชนหลังเขา แถมยังเป็นเด็กที่เขาคิดจะหาทางคุยอยู่ด้วย ยิ่งอยากตบหน้าตัวเองแรงๆซักที ดูดวงตากลมที่จ้องมองเขาด้วยความตกใจนั่นสิ
“อ๊ะ? ขอโทษครับ” เสียงแหบหวานดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าหวานที่เงยขึ้นมามองหน้าเขาที่กำลังหงุดหงิดพอดี เด็กหนุ่มดูตกใจไม่น้อยที่เห็นว่าเป็นเขาก่อนจะชะเง้อไปมองบ้านของตัวเองแล้วหันกลับมามองเขาด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนจะมีคำถาม


“มีอะไรรึเปล่า”
เขาถามเมื่อเห็นท่าทางของเด็กหนุ่มผมทรงกะลาครอบดูลุกลี้ลุกลน ท่าทางน่ารักๆนั่นทำให้เขาอดยิ้มขำในใจไม่ได้


“เปล่าครับ ไม่มีอะไร ขอตัวนะครับ” เด็กหนุ่มว่าก่อนก้มหน้าลงเดินอ้อมตัวคนแก่ เพอร์ซิวัลได้แต่มองตามร่างโปร่งกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปทางบ้านตัวเอง แอบหวังให้เด็กนั่นหันกลับมาชวนเขาคุยแต่ไม่เลย เจ้าตัวรีบร้อนเดินเข้าบ้านไปโดยไม่หันกลับมามองเขาซักนิด


เด็กน้อยเอ๊ย..



          หัวใจ ได้โปรด เลิกเต้นเร็วแบบนี้ซักที


          เด็กหนุ่มก้าวเข้าบ้านก่อนยืนหันหลังพิงประตูแล้วยกมือมากุมหน้าอกตัวเองแน่นพร้อมภาวนาให้อาการหัวใจเต้นแรงนี้หายได้แล้ว แต่ยิ่งคิดถึงใบหน้าคมนั่นกับกลิ่นหอมแปลกๆรอบตัวของคนมีอายุมากกว่า ก็ยิ่งทำให้หัวใจเต้นเร็วจนเขาต้องกลั้นหายใจหวังให้มันกลับมาทำงานปกติซักที แต่ก็ไม่ได้ช่วย กลับทำให้หัวใจของเครเดนซ์เต้นแรงกว่าเดิม


          โง่จริง


          ร่างโปร่งกรนด่าตัวเองในใจก่อนตั้งสติ สูดหายใจเข้าปอดแรงๆแล้วถอนออกมา เครเดนซ์ก้มลงถอดรองเท้าผ้าใบตัวเองอย่างทะนุถนอมกลัวว่ามันจะขาดติดมือมาซะ เก็บเงินซื้อใหม่ดีไหมเนี่ย?
          “วันนี้กลับช้านะ” ก่อนที่เด็กหนุ่มจะคิดเรื่องรองเท้าไปเพลินๆ เสียงแหลมของเจ้าของบ้านที่เขามาขออยู่อาศัยในฐานะญาติก็ออกมายืนกอดอกพิงกำแพงมองเครเดนซ์ที่นั่งยองๆถอดรองเท้าอยู่หน้าประตู และเมื่อเด็กหนุ่มร่างโปร่งได้ยินเสียงนั่นเข้าเป็นอันต้องล้วงมือไปเอาเงินในกระเป๋าที่ได้จากงานพาร์ทไทม์รายวันยื่นให้หญิงตรงหน้า


          จะว่ามาอยู่ในฐานะญาติก็ไม่ค่อยถูกเท่าไหร่นัก เหมือนมาขอเช่าห้องเล็กๆนั่นอยู่มากกว่า เพราะ แมรี่ ลู ไม่เคยมองเด็กหนุ่มเป็นหลานเลย ทั้งเรื่องอาหารเครเดนซ์ก็เป็นคนหากินเองตลอด ทั้งเรื่องเสื้อผ้าเครเดนซ์ก็ทนใช้เสื้อผ้าเก่าๆตอนเด็กมาตลอด อีกทั้งยังเก็บค่าเช่าห้องรายวันตลอดแปดปี ย้ำ! ว่าแปดปี! ไม่ว่ามากหรือน้อยคนเป็นป้าก็ยังคิดจะเก็บ เด็กอายุสิบปีดิ้นรนด้วยตัวเองมาตลอดตั้งแต่พ่อแม่เสียตั้งแปดปี! เพราะอะไร? เพราะเขาต้องอยู่กับป้าแมรี่ ญาติเพียงคนเดียวที่ไม่เคยแม้แต่จะเสียเศษเหรียญให้เด็กสิบขวบได้กินลูกอมเม็ดเล็กๆ และเพราะเป็นญาติคนเดียวอีกนั้นแหละที่ทำให้เขาไปไหนไม่ได้ 
          ใช่ แมรี่เป็นป้าของเครเดนซ์ เป็นพี่สาวของ มากาเร็ต แบร์โบน หรือ มากาเร็ต ลู แม่ของเครเดนซ์ที่เสียชีวิตไปพร้อมกับพ่อของเขาในอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งสมบัติทั้งหมดก็ตกเป็นของแมรี่เป็นผู้ดูแลพร้อมเครเดนซ์ แล้วถ้าถามว่าเครเดนซ์ได้อะไรบ้าง? มีค่าเรียนก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว


และถ้าถามอีกว่า เครเดนซ์ดูแลตัวเองในตอนที่ยังเล็กยังไง?


ในตอนนั้นเครเดนซ์รู้จักผู้ชายที่เปิดร้านขายขนมปังที่ชื่อเจคอบเพื่อนสนิทของพ่อเครเดนซ์ เด็กตัวน้อยที่มีความพยายาม ในเมื่อไม่อยากดูแล ก็ไม่อ้อนวอน เครเดนซ์ไปขอให้เจคอบรับเขาเข้าทำงานด้วย ตอนแรกเจคอบไม่ยอมเพราะกลัวจะผิดกฎหมาย แต่ถ้าใครเห็นเด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังทำตาแป๋วอ้อนด้วยท่าทางน่าเอ็นดูแบบนั้น ใจแข็งแค่ไหนก็ต้องอ่อนลงเหมือนเหล็กโดนเผาด้วยความร้อนสูง และจนถึงตอนนี้เด็กหนุ่มก็ยังแวะเวียนไปช่วยงานเจคอบอยู่บ้าง แม้จะมีงานพาร์ทไทม์อยู่อีกที่ก็เถอะ



และกลับมาปัจจุบัน ในตอนที่เครเดนซ์กำลังยืนขึ้นและกำลังจะเดินขึ้นห้องตัวเอง เด็กหนุ่มที่มีทีท่าไม่มั่นใจตัวเองและดูขี้กลัวตอนอยู่ในสังคม หวาดระแวงมากกว่าเดิมเมื่อเดินเฉียดหญิงสาวที่มองเขาด้วยหางตา ร่างสูงโปร่งที่ปกติจะห่อไหล่ตลอด บัดนี้ มือขาวกอดแขนห่อไหล่งองุ้มมากกว่าเดิม เครเดนซ์เองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่ก็ไม่สำคัญหรอก ยังไงก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดไปอยู่แล้ว....




ในเวลาเดียวกันเพอร์ซิวัลเองก็หัวหมุนอยู่กับงานที่หิ้วมาจากบริษัทตรงหน้าและเรื่องเฟอร์นิเจอร์บางส่วนที่ยังไม่มาถึง


“แล้วจะนอนยังไงล่ะเนี่ย”
เพอร์ซิวัลพึมพำบ่นกับตัวเองเบาๆ มือกร้านยกขึ้นขยี้ผมตัวเองแรงๆจนเสียทรงพร้อมมืออีกข้างที่กำลังวุ่นอยู่กับจัดการเอกสาร


จะเข้าหาเด็กทั้งที จำเป็นต้องลำบากขนาดนี้เลยเหรอ?

“เฮ้อ” ร่างสูงลอบหายใจเบาๆ เมื่อจัดการงานตรงหน้าเสร็จ ก่อนทิ้งตัวลงนอนกับพื้นเปล่าๆ หวนคิดถึงใบหน้าหวานที่เขาพึ่งเจอ คิดถึงเสียงแหบนุ่มที่เขาได้ยิน คิดถึงกลิ่นตัวหอมอ่อนๆที่ได้กลิ่นตอนอยู่ใกล้ๆ


เด็กนั่นจะคิดถึงเขา เหมือนที่เขาคิดถึงหรือเปล่านะ?


รึเป็นเขาคนเดียวที่ฟุ้งซ่าน?


ไม่หรอกน่า ตอนเจอกันร่างโปร่งยังมีท่าทีเขินเขาอยู่เลย คิดว่านะ


“เว้ย!
จู่ๆเพอร์ซิวัลก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่งแล้วตะโกนออกมาก่อนยกสองมือขยี้ผมตัวเองแรงๆหลายที สภาพตอนนี้ของร่างสูงไม่น่าต่างอะไรจากพนักงานเงินเดือนที่เขาจ้างมา ดูยุ่งเหยิงและระโหยโรยแรง ไม่ใช่เพราะงานหนัก งานหนักเขาทนได้ แต่เขาทนไม่ได้ที่ต้องคิดถึงดวงหน้าขาวกับทรงผมกะลาครอบนั่น อยากจะทำอะไรซักอย่างให้เด็กหนุ่มเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อเขา แล้วเขาก็จะได้เคลียร์ตัวเองซักทีว่าที่คิดถึงอยู่ทุกวันนั้นแค่สนใจ หรือ รักไปแล้ว


แกอาจจะใจง่ายกว่าที่แกคิดนะ เพอร์ซิวัล


-To be continue-

1 ความคิดเห็น:

  1. โอ้ย เอ็นดูน้อง ชอบเขาแล้วแอบไปมองเขาทุกวัน
    คุณอาอีกคน ถึงกับต้องย้ายบ้านย้ายที่อยู่เลยหรือคะ 55555555555555555555
    โอ้ย อะไรจะเบอร์นั้น!
    นี่คิดว่าใจง่ายกันทั้งคู่นั่นแหละค่ะ! 555555555
    รอตอนต่อไปนะคะ<3

    ตอบลบ