วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

[SF] Just One Night Stand : Colin Farrell x Ezra Miller (PWP)

[SF] Just One Night Stand : Colin Farrell x Ezra Miller 

Title : Just One Night Stand

Paring : Colin Farrell x Ezra Miller

Rating : (?)     

Note : ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ    








ใครบ้างที่จะไม่หลงผู้ชายที่ชื่อโคลิน แฟร์เรล นักแสดงมากฝีมือแห่งฮอลลีวูด



            อาจจะทุกคน เว้น เอซรา มิลเลอร์ที่กำลังนั่งมองผู้ชายคิ้วหนาวัยสี่สิบนั่งดื่มกาแฟในบ้านของเขา




            เรื่องมีอยู่ว่าเขา เอซรา มิลเลอร์ ได้ร่วมงานโคลิน แฟร์เรลในเรื่อง Fantastic Beast เป็นครั้งแรก แล้วเป็นการพบกันครั้งแรกที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะตอนเจอกันเอซราคิดว่า ผู้ชายคนนี้ขี้เก๊กเป็นบ้า ชอบส่งสายตาอ่อยไปทั่ว ทำให้ทุกคนไม่ยอมสนใจเขา แล้วเขาก็ไม่ชอบเลย ที่คนแก่กว่าชอบใส่เชิ้ตตัวบางๆแถมยังติดกระดุมไม่ครบอีก ทำให้เขาต้องหน้าอกแกร่งนั่นทุกวันที่มีฉากร่วมกันหรือมีถ่ายวันเดียวกันแต่คนละฉาก นั่นแหละที่ทำให้หมั่นไส้!




            แต่ทางฝั่งโคลินก็ใช่ว่าจะชอบเอซราซะเมื่อไหร่ เพราะบางครั้งเด็กหนุ่มที่มีทรงผมกะลาครอบนั่นก็ชอบทำเสียงดังจนเขารำคาญ บางครั้งก็ชวนเด็กที่เข้าฉากด้วยวิ่งเล่นจนเป็นเหตุให้ทั้งกองเกิดความวุ่น ทำให้เลิกกองช้าอย่างช่วยไม่ได้ แถมยังชอบไปคลุกคลีเล่นกับเอดดี้ เรดเมย์น พระเอกของเรื่องอีก ทั้งที่ฉากที่เล่นด้วยกันน้อยกว่าเขา แต่เอซราก็ไม่เคยที่หันมาชวนเขาคุยเลย นั่นแหละที่ทำให้หมั่นไส้!




            ไม่มีใครรู้ว่าทั้งคู่ไม่ถูกกันเพราะเวลาให้สัมภาษณ์ทั้งคู่ก็ดูสนิทกันดีจนนักแสดงคนอื่นๆแปลกใจ ทั้งที่ในกองไม่เคยคุยกัน ทำไมตอนสัมภาษณ์ถึงเข้าขากันขนาดนั้นนะ? เรื่องการแสดงเหมือนกัน ทั้งที่ไม่เคยทั้งคู่ซ้อมบทกันเลยซักครั้ง ทำไมถึงไม่ผิดพลาดหรือเก้อเขินเลย? นั่นเป็นสิ่งที่ เอซรา และ โคลิน คิดอยู่เหมือนกัน จนเด็กหนุ่มหลุดปากไปในสัมภาษณ์นึงว่าเขาชอบที่จะทำงานกับผู้ชายคนนี้ข้างตัว จนคนที่ถูกเอ่ยถึงหลุดยิ้มออกมา แต่ก็แค่นั้น หลังจบงานทั้งคู่ก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย





            จนกระทั่ง หลายเดือนต่อมา ทั้งคู่เจอกันในผับแห่งนึงในนิวยอร์ก โดยเอซราได้ขึ้นไปเล่นดนตรีกับวง ส่วนโคลินแค่อยากหาอะไรดื่มเท่านั้น ทิ้งลูกหัวแก้วหัวแหวนนอนอยู่กับพี่เลี้ยง ก็แค่วันเดียว ไม่เป็นอะไรหรอก โคลินคิด พลางหันไปมองวงดนตรีที่เล่นอยู่บนเวทีเล่น โดยผู้คนมากมายกระโดดไปตามจังหวะเพลงและเสียงกลองของเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้าหวานภายใต้หนวดเครารกรุงรังนั่น
โคลินเผลอจ้องมองดวงหน้าขาวและปากที่ขยับร้องเพลงอยู่สักพักเอซรารู้ตัวว่าถูกจ้องได้หันกลับไปมองขณะเดียวกันปากอวบอิ่มก็ขยับเปล่งเสียงร้องเพลงไปเรื่อยๆ ไม่มีการหันหนีแต่อย่างใด กลับกันเมื่อโคลินเห็นเอซราหันกลับมามองเขา รอยยิ้มหวานของคนมีอายุก็จุดประกายขึ้นส่งให้เด็กหนุ่มบนเวที แม้แต่ภายในผับจะมืดสักเพียงใดแต่รอยยิ้มของโคลินก็ฉายแสงบางอย่างในใจเด็กหนุ่มซะแล้ว ความรู้สึกภายในใจทำให้เขาทั้งคู่ลืมเรื่องที่ไม่ชอบกันเกือบสนิท
พวกเขาทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันตลอดเวลาการแสดง มีบ้างที่เอซราแอบหลบสายตาไปมองผู้คนด้านหน้า แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันมองชายคิ้วหนาที่อยู่ตรงบาร์

และเมื่อการแสดงจบลง เด็กหนุ่มก็ออกมากวาดสายตาไปรอบหาผู้ชายที่เขามองมาตลอด แม้จะรู้สึกมึนๆนิดหน่อยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ผู้ชมยื่นให้ดื่ม อันที่จริงไม่ใช่แค่มึนแต่เมาเลยแหละ! แต่ยังไงเขาก็มั่นใจว่าเขาเห็นผู้ชายคนนั้นจริงๆ


“กำลังมองหาใครอยู่เหรอ?”
เอซราที่ได้ยินเสียงอีกคนที่เขาตามหาก็รีบหันไปมองตามเสียง เจอแล้ว.. โคลินยืนยิ้มมองเด็กหนุ่มที่หน้าแดงกล่ำยืนโงนเงนมองเขากลับ จะว่าไป นายก็น่ารักดีนะ
“ผมมองหาคุณนั้นแหละครับ ว่าจะมาชวนไปต่อ” เด็กหนุ่มค่อยๆก้าวเข้าหาชายร่างสูงช้าๆสติที่ตั้งใจจะคุมไว้ให้มั่นคงเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หัวทุยของเอซราโน้มลงซบกับบ่าของคนมีอายุก่อนช้อนตามองด้วยท่าทีออดอ้อนที่ไม่ค่อยได้เห็นในตอนปกติ เฉพาะกับโคลินอ่ะนะ “คุณรู้ความหมายไหมครับ? ผมรู้ว่าคุณรู้และผมรอคำตอบอยู่นะ”


จะเป็นอะไรได้นอกจากตกลง โคลินที่เห็นท่าทางแบบนั้นแทบอยากจะอุ้มเจ้าหมีขี้อ้อนนี้ออกจากผับ แต่ด้วยรูปร่างและความสูงของอีกคนเขาทำได้แค่กอดเอวสอบพยุงอีกคนขึ้นหลังจากตกลงปลงใจจะ ไปต่อตามที่บอก





นั่นคือจุดเริ่มต้นและคำตอบที่ว่าทำไม คนแก่ที่เอซราไม่ค่อยชอบหน้า ถึงมานั่งจิบกาแฟทั้งที่ยังเปลือยท่อนบนในบ้านเขาได้ เอซราขอสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์ที่แฟนคลับยื่นให้อีกแล้ว ชงหนักขนาดทำให้เขาไม่รู้ตัวเลยว่าหิ้วผู้ชายกลับบ้านด้วย แถมยังเป็นโคลิน ผู้ชายที่เขาแอบหมั่นไส้อยู่อีก ต่อไปนี้เอซราจะชงเอง เชื่อเลย



“ทีนี้ บอกผมได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้น?”
เสียงแหบหวานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอีกคนวางแก้วกาแฟลงกับโต๊ะกระจกด้านหน้า



“ฉันบอกแล้วไง ว่าเธอชวนฉันมาแล้วเรามีอะไรกันแค่นั้น ถามทำไมนักหนา?” คิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างกวนๆเด็กหนุ่มตรงหน้า บอกเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าตาเฉย พลางมองใบหน้าหวานที่ไร้หนวดเคราบึ้งตึงมองเขากลับ “และฉันคิดว่าเธอควรจะเชื่อเพราะที่เธอบ่นปวดสะโพกในห้องน้ำตอนโกนหนวดนั่น เป็นหลักฐานชั้นดีเลย”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางยิ้มมุมปาก ทำเอาอีกคนหน้าเห่อร้อนขึ้น ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าโคลิน แฟร์เรล คือผู้ชายที่มีเสน่ห์ล้นจริงๆ ปากอิ่มที่มีรอยแห้ของผิวที่แตกเม้มเข้าหากัน พลางคิดว่าจะเอาไงต่อดี


“ผมขอให้คุณลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นซะ เพราะเรื่องเมื่อคืนนั้นผมไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษที่ทำอะไรไม่คิด คุณกลับไปได้แล้ว” เด็กหนุ่มลุกขึ้นไปหยิบเสื้อของอีกคนที่กองอยู่พื้น ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจัดกันตั้งแต่หน้าประตูบ้านเลย



“เรื่องอะไร? เธออ่อยฉันให้ทำ ต้องรับผิดชอบสิ”
ชายหนุ่มกอดอกพิงหลังกับพนักโซฟาพลางเงยหน้ามองเด็กหนุ่มแล้วยิ้ม



เดี๋ยวนะครับ! คนที่ควรจะรับผิดชอบนั่นมันคุณไม่ใช่เหรอ?



“ผมอ่อยเพราะเมา แต่คุณมีสติยับยั้งห้ามใจได้ ผิดที่คุณต่างหาก” เอซรากอดอกมองกลับ ได้! จะมีเรื่องใช่ไหม? ได้! เถียงให้ตายกันไปข้างล่ะ



“ผิดที่เธอนั่นแหละ รับเหล้าจากคนแปลกหน้า แถมยังมาชวนผู้ชายเข้าบ้านตัวเองอีก”



“แล้วคุณตกลงทำไมล่ะ? ก็รู้ว่าผมเมา น่าจะช่างๆไปซะ”



“ก็มันช่างไม่ได้ไง คิดว่าฉันจะรู้สึกผิดไหม ถ้าปล่อยเธอไปคนอื่นแล้วโดนข่มขืน เชื่อฉันเถอะ มีอะไรกับฉันยังดีกว่ามีอะไรกับคนไม่รู้จักนะ”



“คุณก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ผมไม่รู้จักหรอกครับ”



“นี่เธอ!



“ทำไมครับ?”
ทั้งสองยืนประชันหน้ากัน ใบหน้าทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงคืบ จ้องมองกันอย่างไม่ใครยอมใคร


“จะปฏิเสธเหรอว่าเราไม่เหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน ก็จริงที่เราเล่นหนังด้วยกัน แต่เราก็แทบไม่ได้คุยกันเลย คุณจะปฏิเสธไหม?” เด็กหนุ่มมองอีกคนด้วยด้วยดวงตากร้าว



“ได้..เราไม่รู้จักกัน จากนี้และตลอดไป เรื่องเมื่อคืนถือว่าเป็นความผิดพลาดฉันเองที่ไปเอาเด็กแบบเธอ”



“ทำไมครับ? เด็กแบบผมทำไม?”



“ต้องให้พูดเหรอ?”



ชายหนุ่มแสยะยิ้มเหยียดมองเด็กตัวสูงที่อยู่ตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนตวัดมามองดวงหน้าขาวที่แดงกล่ำเพราะความโกรธ ทันเท่าความคิด มือขาวถูกยกขึ้นมาทำท่าจะทำร้ายเขา แต่โคลินรู้ทันเลยจับแขนอีกคนแล้วบีบแน่น



“โกรธเหรอ? เธอทำตัวเองนะเด็กน้อย”



            “ใช่ ผมทำตัวผมเอง ไม่น่าเมาเลย ถ้ารู้ว่าเมาแล้วต้องมาเจอคนที่เลวร้ายแบบคุณ ผมจะไม่ยอมดื่มทั้งชีวิตเลย และผมไม่แน่ใจว่าที่คุณพูดหมายถึงอะไร แต่ถ้าหมายถึงแบบเดียวกับที่ผมคิด ผมว่าคุณคิดผิด เพราะนั่นมันครั้งแรกของผม แต่ผมจะลืมมันซะ ทำเหมือนว่าผมไม่เคยเสียครั้งแรกให้ใคร ทำเหมือนว่าผมไม่ได้เสียอะไรให้กับคุณ เราจะทำตัวปกติ ถ้าไม่ชอบหน้าก็แค่เจอกันแค่เรื่องงาน หลังจากนั้นเราก็ไม่รู้จักกัน จบนะครับ ขอโทษที่ทำให้แปดเปื้อนเพราะเด็กอย่างผมนะครับ”



            เด็กหนุ่มพูดร่ายยาวพลางจ้องใบหน้าอีกคนอย่างข่มอารมณ์ ก่อนจะยัดเสื้อใส่มือโคลินที่ยืนนิ่งค้าง คนมีอายุยังคงนิ่งหลังจากที่ฟังเอซราพูดจบ จนเด็กหนุ่มหันมาทำสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรอย่างที่บอก โคลินก็คว้าร่างโปร่งเข้ามากอดแนบอกแต่เด็กหนุ่มก็ยังนิ่ง จนกระทั่งโคลินเป็นคนเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง


            “ขอโทษ..”


            “ขอโทษอะไรกันครับ ไม่มีเรื่องที่ทำให้คุณต้องขอโทษนี่ กลับไปได้แล้วครับ ผมอยากพักผ่อน”
            เอซราผละออกจากอ้อมกอดแกร่งอีกคนก่อนยิ้มตาหยีอย่างร่าเริง เหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้าไม่มีจริง โคลินที่เห็นอย่างนั้น จู่ๆก็เหมือนถูกบีบหัวใจให้จวนเจียนจะตายซะอย่างนั้น เขาหยิบเสื้อขึ้นมาใส่ก่อนจะเดินถอยหลังออกจากบ้านของเด็กหนุ่มไป

           
            โคลินเงยหน้ามองบ้านหลังงามที่เขาพึ่งเดินออกพลางคิดถึงใบหน้าหวานที่ไล่เขาออกมา เรื่องของเราจะจบแค่คืนเดียวจริงเหรอ?



            ทางฝั่งของเอซรา เมื่อเห็นอีกคนออกไปแล้ว ขายาวก็ทรุดลงกับพรมสีแดง น้ำตาที่กลั้นไว้ตั้งแต่ต้นพลั่งพลูออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ต้องขอบคุณฝีมือการแสดงที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็กทำให้ไม่ร้องไห้ออกมาตอนที่คนแก่นั่นยังอยู่ เชื่อเถอะว่าเอซราเจ็บใจไม่น้อยที่โดนพูดแบบนั้นใส่หน้า แม้เขาจะไม่พูดตรงๆ แต่ก็เห็นได้ชัดๆอยู่แล้วว่าเขาหมายถึงอะไร ผู้ชายคนนั้นร้ายกาจ และ เลวร้ายกว่าที่คิด


            โชคดีแล้วที่เรื่องราวทั้งหมดจบในคืนเดียว.


-END-

1 ความคิดเห็น:

  1. แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง สงสารน้องเอซง่าาาา จะมีภาคต่อให้คุณอามาง้องอนไหมคะ ขอให้มีนะคะๆๆๆ

    ตอบลบ